Wednesday, August 02, 2006

ชาวนากับไก่

...

ตรงหัวเตียงของผม มีหนังสือ มหัศจรรย์แห่งศิลปะ ของอาจารย์พิษณุ ศุภ. วางอยู่ ผมเอาไว้เปิดอ่านทีละตอนสองตอน ก่อนนอนทุกคืน อ่านแล้วนอนหลับสบายดีเหมือนกัน เพราะมีภาพเขียนระดับโลกสวยๆ พิมพ์สี่สีในเล่ม และมีบทความอ่านลื่นๆ ง่ายๆ เบาสมอง อ่านแล้วรู้สึกอยากทำงานศิลปะบ้าง อยากไปซื้อสมุดวาดเขียนกระดาษดีๆ สีน้ำหรือสีน้ำมันสักกล่อง จานสี พู่กัน แล้วเอาไปนั่งวาดเล่นเย็นๆ ใจ ตรงที่ไหนมันมีวิวสวยๆ ตั้งแต่เด็กมา ในวิชาเรียนศิลปะ เท่าที่จำความได้ ไม่เคยได้คะแนนดีเลยสักชั้นปี ไม่รู้ว่ามันเป็นที่ลักษณะของการใช้สมองหรือเปล่า สมองซีกที่คิดสร้างสรรค์และศิลปะของผมคงไม่ได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่เด็กๆ ขอเม้าธ์คุณครูในโรงเรียนอนุบาลหน่อยเถอะ ความทรงจำแรกๆ ของผม ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ เกี่ยวกับตอนเข้าเรียนอนุบาล 1 นอกจากการไปร้องไห้และอ้วกหน้าชั้นเรียน เพราะอยากจะกลับบ้านแล้ว ผมยังจำวันแรกที่เรียนวิชาศิลปะได้แม่น วันนั้นครูแจกกระดาษภาพระบายสีให้เด็กนักเรียนคนละแผ่น พร้อมกับสีเทียนโต๊ะละกล่อง ในกระดาษภาพระบายสีเป็นรูปลายเส้นชาวนายืนอยู่ แล้วก็มีไก่ยืนอยู่ข้างๆ อีกตัว นั่นเป็นการระบายสีภาพครั้งแรกในชีวิตของผมเลยนะ ที่บ้านผมสมัยก่อนก็เลี้ยงลูกกันแบบตามมีตามเกิด ปล่อยให้ไปวิ่งเล่นกับพี่ๆ ไม่ได้ซื้อของเล่น หรือซื้อสมุดภาพระบายสีมาสอนลูก ผลก็คือผมระบายสีไม่เป็น! และ ณ เวลานั้น ก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องระบายสี (ตลกไหมล่ะ) เหลือบไปเห็นเพื่อนคนอื่นเอาสีเทียนมาถูๆ ในกระดาษ ผมก็หยิบมาถูบ้าง สีก็เลอะภาพเละเทะไปหมด คุณครูเดินผ่านมาดูความคืบหน้าของเด็กแต่ละคน แล้วมาหยุดที่โต๊ะผม คุณครูเลยสอนว่า ระบายแบบนี้ไม่ได้ ต้องระบายสีให้อยู่ในกรอบลายเส้น แล้วก็จับมือผมระบายสี สีน้ำเงินให้อยู่ในกรอบลายเส้นของรูปเสื้อชาวนา สีเหลืองให้อยู่ในกรอบลายเส้นรูปหมวกชาวนา สีแดงให้อยู่ในกรอบลายเส้นรูปไก่ แบบนี้ แบบนี้ นั่นแหละ ผมถึงจะเข้าใจ อ๋ออ! นี่คือการระบายสีภาพ หลังจากวันนั้น เวลาผ่านมา 30 ปี กรุณากดปุ่ม FFW ประกอบ ผมไปเดินดูนิทรรศการของ วิเวียน เวสต์วู้ด ที่ TCDC มีป้ายแปะหราอยู่ตรงทางเข้างาน เป็นตัวหนังสือใหญ่บึ้ม บอกว่า "นอกกรอบ" เฮ้อ... เด็กรุ่นผมได้เรียนรู้และเติบโตมากับโรงเรียนอนุบาลแบบนี้จริงๆ นะครับ ไม่รู้ว่าโรงเรียนอนุบาลสมัยนี้เขาพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว ย้อนกลับไปหลังจากเหตุการณ์ระบายสีนั้นหน่อยนึง กรุณากดปุ่ม RE ย้อนกลับไปตอนที่ผมเรียนป.1 จำได้แม่นจริงๆ นะ ตอนนั้นเป็นการสอบวิชาภาษาไทย มาสเตอร์แจกกระดาษข้อสอบแบบอัตนัย (มาสเตอร์คือคุณครูนั่นแหละ เป็นครูผู้ชาย) บนกระดาษมีรูปภาพชาวนายืนอยู่ (อีกแล้ว) มีบ้าน มีเรือกสวนไร่นา มีเล้าหมู มีคอกวัวควาย เป็ดไก่ (ไก่นี่ต้องมีประจำ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) พร้อมกับคำสั่งให้เขียนเรียงความ 10 บรรทัด เกี่ยวกับภาพนี้ (นี่คือข้อสอบเด็กป.1 จริงๆ นะ) ผมก็เขียนๆ ไป ประมาณว่า ชาวนาเป็นคนดี ขยันทำงานทุกวัน แต่น่าสงสารที่เขายากจนมาก มาวันหนึ่งเทวดาเลยจะช่วยเหลือเขา เอาทองคำไปฝังไว้ในที่นา ชาวนาขยันทำงาน เลยขุดดินลึกลงไปเจอทองคำ ชาวนาดีใจ และก็อยู่อย่างมีความสุขตลอดไป ผมเขียนประมาณนี้แหละ แต่ยืดเรื่องให้มันยาว 10 บรรทัด ตอนนั้นคงชอบอ่านนิทาน หรือดูละครจักรๆ วงศ์ๆ เยอะไปหน่อย แล้วก็ส่งกระดาษคำตอบไป พอกลับมานั่งที่ เหลือบไปดูเพื่อนคนข้างๆ ที่มันยังเขียนไม่เสร็จ มันเขียนว่า ชาวนามีบ้าน 1 หลัง มีไร่ มีนา มีสวน มีหมู 2 ตัวอยู่ในเล้า มีวัว 2 ตัวอยู่ในคอก มีไก่ 8 ตัว มีเป็น 10 ตัว มีนกบินอยู่บนฟ้าด้วย อะไรเงี้ยะ คือเพื่อนมันเล่นดูรายละเอียดในภาพ นับนิ้ว แล้วเขียนบรรยายออกมาทั้งหมด ตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าตกใจสุดๆ เฮ้ย! นี่กูเขียนบ้าอะไรไปส่งวะ สอบตกแน่ๆ เพราะในภาพนั้นไม่มีภาพทองคำฝังไว้ในดิน ตลอดช่วงปิดเทอมหลังจากสอบวันนั้น ผมหนาวๆ ร้อนๆ กังวลสุดๆ ว่าจะสอบตกซ้ำชั้น หรือต้องไปสอบซ่อมแหงๆ ช่วงเวลาประมาณนั้น อาจจะเป็นช่วงที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผมอย่างมากที่สุดก็ได้ ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่ามีแน่ๆ ผมกลัวและหงอกับการที่จะแสดงออกอะไรบางอย่าง ที่อยู่นอกเหนือไปจากที่ถูกสั่ง หรือถูกกำหนด พอเปิดเทอมมา ผลสอบออกมาว่าผมผ่านตามปกติ ไม่ได้สอบตกอย่างที่กังวลตลอดปิดเทอม แต่มันกระทบจิตใจจริงๆ และภาพชาวนากับไก่ก็เป็นความทรงจำแรกๆ ในวัยเด็กของผม ที่เกี่ยวกับโรงเรียนและระบบการศึกษา ผมวาดภาพแบบไม่ได้เรื่องเลยตลอด 30 ปีหลังจากนั้น และผมเขียนหนังสือได้แต่ในแนวที่เคร่งเครียด และมุ่งเน้นไปที่การใช้เหตุผลแบบแข็งๆ เข้าไปตีกรอบให้กับเรื่องต่างๆ ที่พยายามวิเคราะห์มัน มากกว่าที่จะเขียนอะไรที่สนุกสนาน ยืดหยุ่น มีความสร้างสรรค์ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ว่ามันเกี่ยวกันกับเรื่องราวในวัยเด็กเหล่านั้นหรือเปล่า

...

2 comments:

Anonymous said...

ว่าจะไปดูวิเวียน เวสท์วู้ต อีกสักรอบ
วันนี้ที่ไปดูแค่ พรีวิว

เอาลิงก์ที่บอกว่า กำลังฮือฮา
กระทู้ด๋อย ไปบ้างแล้ว ความเห็นจะไม่เรียง
คอมเม้นท์ทะลุ 1000 ไปแล้ว

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4573621/A4573621.html

Anonymous said...

เคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งครับ นานมาแล้วจำไม่ได้ว่าใครเขียนแต่มันก็ยังติดอยู่ในความคิดของผมเรื่อยมาจนถึงวันนี้ พล็อตเรื่องคร่าวๆ มีอยู่ว่า

ครูสอนศิลปะให้โจทย์นักเรียน(ประถม) ในห้องว่าให้วาดรูป “แก้วน้ำของฉัน”
เด็กนักเรียนในห้องทั้งหมดก็วาดภาพแก้วปกติ ระบายสีสันสดใส แก้วน้ำที่มีเส้นไม่กี่เส้นวงๆ รีๆ ใครวาดไม่เสร็จก็เอาไปวาดต่อที่บ้านพรุ่งนี้ให้เอามาส่ง คุณครูกำชับว่าอย่าให้ใครมาวาดให้ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับตกอะไรทำนองนี้

ผ่านไปรุ่งเช้า, เด็กๆ ก็ทยอยกันมาส่งที่โต๊ะครู เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็ถึงชั่วโมงศิลปะอีกครั้ง
คุณครูคนเดิมก็ตรวจภาพแก้วน้ำของเด็กๆ แต่ละภาพที่วาดเหมือนๆ กัน คะแนนก็ไล่เรียงกันแล้วแต่ความสวยงามของการระบายสี คะแนนอยู่ที่เต็มสิบ คุณครูเขียนวงกรมในรูปพร้อมลายเส้น ตรวจภาพไหนเสร็จก็เรียกชื่อให้นักเรียนมาเอาภาพคืนไปดูคะแนน

7 8 9 คือ คะแนนเฉลี่ยที่นักเรียนทั้ง 29 คนได้
แต่ก็มีคนหนึ่งที่ได้แค่ 2 คะแนน เพราะว่าเขา “วาดแก้วแตก”

“เดชา มาหาครูหน่อย ทำไมเธอวาดแก้วแบบนี้”
เดชาก้มหน้านิ่งด้วยความกลัวต่อหน้าคุณครูที่อยู่ตรงหน้า
“..ก็ผมวาดตามที่คุณครูบอกครับ วาดรูปแก้วน้ำของฉัน”
“ใช่ ๆ นี่เธอกล้าย้อนครูเหรอ”
เด็กนักเรียนคนเดิมยิ่งกลัวไปใหญ่
“ผมวาดตามที่เห็นครับ แก้วน้ำที่บ้านผมแตก เพราะเมื่อคืนพ่อกินเหล้าทะเลาะกับแม่ แม่ขว้างแก้วของพ่อแตก”

……

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องที่คุณ Woody เขียนไหมนะครับ
แต่ผมอ่านเรื่องของคุณที่พูดถึงวิชาศิลปะในห้องเรียนสมัยประถม
ผมก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

“แก้วน้ำของฉัน”