Wednesday, September 13, 2006

ไฮยีน่า

...

เมื่อกี้นั่งรถแท็กซี่ไปแถวฝั่งธนฯ อีกแล้วครับ สองวันที่ผ่านมา ต้องไปแถวนั้นติดๆ กัน และก็เจอเรื่องเซ็งๆ ติดๆ กันเลย วันนี้เพิ่งไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนบัญชีจุฬาฯ ขากลับก็เลยนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนผู้หญิงร่วมรุ่นที่บ้านเขาแถวปิ่นเกล้า เดี๋ยวเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่ารายละเอียดของงานแต่งงานให้ฟังก็แล้วกัน วันนี้ขอบ่นเรื่องที่พบเห็นบนท้องถนนอีกสักวัน หลังจากที่เพิ่งบ่นมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานเรื่องนึง คือวันนี้พอส่งเพื่อนผู้หญิงที่บ้านเขาเสร็จ ผมก็ให้แท็กซี่ขับต่อไปที่บ้านเลย พอรถเราขับผ่านใกล้หน้าโรงหนังเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ปิ่นเกล้า ก็เจอรถติดแบบมโหฬาร ทั้งที่ตอนนี้เวลาเกือบจะห้าทุ่มเข้าไปแล้ว รถค่อยๆ เคลื่อนยึกยักๆ ไปจนพ้นบริเวณหน้าโรงหนังไปนั่นแหละ ถนนจึงจะค่อยโล่ง และขับไปได้ฉิว คือที่รถติดนั่นหน่ะ มันติดรถแท็กซี่และรถเมล์ร่วมบริการ ที่แห่กันมาจอดแช่บนถนน เพื่อรอรับผู้โดยสาร แล้วกินออกมาถึง 2-3 เลน บริเวณหน้าโรงหนัง โดยไม่มีตำรวจหรือยามของโรงหนังออกมาช่วยโบกเลย

พวกคนขับแท็กซี่และรถเมล์ร่วมคงรู้ครับ ว่าตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าแบบนี้ หนังรอบค่ำเพิ่งจะเลิก ห้างเซ็นทรัลฝั่งตรงข้ามก็เพิ่งปิด ช่วงเวลานี้คงจะต้องมีผู้คนต้องการกลับบ้านเยอะมาก พวกเขาเลยแห่ขับมาจอดรอกัน ผลปรากฏก็คือยิ่งมีแท็กซี่และรถร่วมมาจอดรอมาก รถก็ยิ่งติดหนักมากขึ้น พอรถติดหนักมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้คนที่รอรถเมล์ปกติ ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่มากขึ้น เพื่อจะได้ไปให้พ้นๆ จากบริเวณนี้เสียที และรถเมล์ที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้ว ก็เข้าจอดป้ายไม่ได้ สมัยก่อน ผมเคยไปดูหนังที่โรงเมเจอร์ปิ่นเกล้าบ่อยครับ จนหลังๆ นี่ขี้เกียจไปแล้ว เพราะเบื่อรถติดและกลับบ้านยากนี่แหละ ผมคิดว่าพวกคนขับแท็กซี่และรถร่วมเหล่านี้ หากินด้วยวิธีร่วมมือกัน จงใจมาจอดแช่ให้รถติดครับ เพราะยิ่งรถติดเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสรับผู้โดยสารมากขึ้นเท่านั้น เป็นการปิดโอกาสไม่ให้ประชาชนทั่วไปขึ้นรถเมล์ปกติของขสมก.

ผมมองว่าพวกคนขับแท็กซี่และรถเมล์ร่วมพวกนี้ ทำตัวเหมือนพวกหมาป่าไฮยีน่า เนื่องจากไฮยีน่าตัวเล็กและมีแรงน้อยกว่าสัตว์ใหญ่ที่เป็นเหยื่อ จำพวกเป็นวัวป่า ควายป่า หรืออะไรก็ตาม เวลาออกล่ามันจึงออกล่าเป็นฝูง มันจะกระจายกำลังออกไปโอบล้อมฝูงเหยื่อของมัน คอยเล็งเอาเหยื่อตัวที่ดูอ่อนแอ อาจจะเป็นลูกวัวหรือลูกควายตัวที่เพิ่งคลอดมาได้ไม่นาน หรืออาจจะเป็นวัวหรือควายที่แก่หงำเหงือกหมดเรี่ยวแรว แล้วจะมีไฮยีน่าบางตัว คอยวิ่งเข้าไปกัดเหยื่อที่ดูอ่อนแอหรือเชื่องช้ากว่าตัวนั้น พอกัดปุ๊บ มันก็รีบวิ่งหนีออกมาเพื่อดูผล ถ้าเห็นว่าเหยื่อตัวนั้นบาดเจ็บ หมดแรงต่อสู้ ไฮยีน่าตัวอื่นๆ ก็จะพุ่งเป้าไปที่เหยื่อตัวนี้ และวิ่งเข้าไปกัด เข้าไปตอด จนกระทั่งเหยื่อล้มลง แล้วพวกมันทั้งฝูง ก็จะมารุมกัดกินเหยื่อตัวนั้นจนไม่เหลือซาก โดยที่วัวหรือควายในฝูงตัวอื่น ไม่มีทางมาช่วยเหลืออะไรได้

คนรอรถเมล์ที่ป้ายหน้าโรงหนังเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ ก็เหมือนเหยื่ออย่างวัวหรือควาย ยืนชะเง้อชะแง้ รอรถเมล์ของขสมก.ไปอย่างหมดหวัง เพราะรถติดมโหฬาร เหยื่อบางคนยืนจะขาหมดแรง ก็ต้องยอมขึ้นรถแท็กซี่เหล่านั้น เหยื่อบางคนพอเห็นรถติดปุ๊บ ก็ถอดใจ ยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปเลยในทันที เหยื่อบางคนทนอึดแข็งแรงหน่อย ก็ยืนรอรถเมล์ไปสักครึ่งชั่วโมง พอรถเมล์มาถึงจริงๆ ก็เข้าป้ายไม่ได้ ต้องวิ่งฝ่าฝูงไฮยีน่า เอ๊ย! วิ่งฝ่าฝูงรถแท็กซี่และรถเมล์ร่วม ออกไปขึ้นรถเมล์ที่ต้องการ ที่จอดรออยู่บนเลนที่ 3-4 ของถนน และก็จอดได้เพียงแค่แว้บเดียว ผมคิดว่าแถวหน้าโรงหนังเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์แทบทุกสาขา จะมีอาการรถติดหนักแบบนี้มานานมากแล้วครับ ผมสังเกตจากที่สาขาปิ่นเกล้าที่สมัยก่อนผมไปดูประจำ และสาขารัชโยธินที่ไปดูบ้างเป็นครั้งคราว เมเจอร์ซีเนเพล็กซ์เป็นศูนย์การค้าที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสิ้นเชิง ไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านจราจรในบริเวณหน้าศูนย์ตนเอง และไม่คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้มาใช้บริการตนเลย เมื่อเทียบกับศูนย์การค้าใหญ่แห่งอื่นๆ อย่างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่เขากันพื้นที่ลานหน้าศูนย์การค้าเข้ามาเป็นที่จอดรับส่งผู้โดยสารรถแท็กซี่ สยามพารากอนก็กันพื้นที่หน้าศูนย์ไว้จอดแท็กซี่เช่นกัน

เมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ นอกจากจะไม่กันพื้นที่หน้าศูนย์ของตนเอง ไว้สำหรับช่วยปัญหาการจราจรแล้ว นอกจากจะไม่จัดเจ้าหน้าที่มาช่วยโบกรถแล้ว เขายังใช้พื้นที่ตรงนั้นเปิดตลาดนัดบ้าง เปิดลานเบียร์บ้าง หรือให้เอกชนมาเช่าทำบูธโฆษณาสินค้า และไม่ใช่แค่พื้นที่หน้าศูนย์เท่านั้นด้วย เขายังเอาพื้นที่ลานจอดรถบางส่วนของตนเอง มาเปิดตลาดนัด ให้คนมาเช่าพื้นที่เพื่อขายของกัน ทำให้รถของลูกค้าเลี้ยวเข้าศูนย์ได้ยากมาก เพราะมีตลาดนัดและผู้คนเดินกันขวักไขว่ตรงทางเข้าที่จอดรถ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่บริเวณหน้าเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์แทบทุกสาขา มักจะรถติดมโหฬารในช่วง 3-4 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงกลางดึกที่ตำรวจไม่ค่อยมาโบกรถแล้ว และตรงกับเวลาเลิกหนังรอบดึกพอดี หลายปีก่อนเคยมีข่าวเด็กนักศึกษาคนหนึ่งตกรถเมล์ตาย ที่ป้ายรถเมล์หน้าเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์รัชโยธิน ตามข่าวเท่าที่จำได้ คือนักศึกษาคนนี้วิ่งไปขึ้นรถเมล์กลางถนน เพราะรถเมล์จอดเข้าป้ายไม่ได้ แล้วคนขับมองไม่เห็น เลยปิดประตูหนีบเขา และลากเขาล้มลง ทำให้โดนรถทับในที่สุด ผมอ่านข่าวนี้แล้ว นึกภาพตามได้อย่างชัดเจน เพราะภาพการวิ่งขึ้นรถเมล์กลางถนน เพราะรถเมล์เข้าป้ายไม่ได้ และรถติดมโหฬาร คือภาพที่ผมเห็นอยู่เป็นประจำทุกครั้งที่ไปรอรถเมล์อยู่หน้าเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ สำหรับผม เมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ก็เป็นไฮยีน่าตัวหนึ่งเหมือนกัน อาจจะเป็นไฮยีน่าจ่าฝูง ที่คอยกัดกินเหยื่อที่ต้องไปยืนรอเมล์อยู่บริเวณนั้น โดยมีไฮยีน่าลูกสมุนเอารถแท็กซี่และรถร่วมมาจอดแช่ล้อมรอบพวกเราเอาไว้ เขียนบล้อกแบบนี้จะโดนฟ้องไหมครับ? เสียวจังเลย

...

3 comments:

Anonymous said...

Your comments today and yesterday are very sharp, but I'm afraid to say "well...I agree with you". If I do so, I may be accused and taken to court togather with you !!

Anyway, for the advertisement on the body of the bus, I'd like to briefly say that it's very BAD that the advertisers use the passengers as the object to fulfil his purpose.The well-educated man doesn't do this for sure.

FILMSICK said...

เคยอ่านเรื่องlittle tree เขาบอกว่า

ตามกฏของป่า การล่าจะเลือกเหยื่อที่อ่อนแอที่สุด
เพราะนับหนึ่งมันคือการคัดเลือกสายพันธุ์
เพราะฉะนั้นเวลามนึษย์จะล่าสัตว์
ควรเลือกตัวที่อ่อนแอที่สุด ไม่ใช่ตัวที่ดีที่สุด

เป็นกฏของป่าที่บางทีอาจลามเข้ามาถึงในเมือง

เนื่องจากไม่ใช่คนบางกอก
ผมจึงหงุดหงิดมากเป็นหลายเท่าเวลาเจอรถติด

จะมาบอกว่า ถ้าโดนฟ้องผมจะไปส่งข้าวครับ

simpletern™ said...

มีอีกที่คือตรงถนนรัชดาฯ แถวรัชดาซอยสี่ รถติดมากโดยเฉพาะช่วงเวลาผับเลิก ถนนจะเต็มไปด้วยรถแท็กซี่ที่มารองับคน

สิ่งที่คิดว่าเลวมากคือ ตอนที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร คือถ้าพี่เขาคิดแล้วว่าไม่คุ้มค่าก็จะปฏิเสธเราอย่างไม่ใยดี บางคันพอบอกจุดหมายไป ทำท่าหยั่งกะเจอผี ฯลฯ

นานน้านจะเจอแท็กซี่ที่ใจรักการบริการ และมีจรรยาบรรณต่ออาชีพจริงๆ