Thursday, September 07, 2006

สุนทรียะของกอล์ฟ

...

บล้อกในช่วงนี้ขอเขียนถึงหลายๆ ประเด็นที่นึกขึ้นมาได้ ระหว่างการไปท่องเที่ยวเสิ่นเจิ้นมา 3 วันนะครับ อย่างบล้อกของเมื่อวานนี้ ได้เล่าเรื่องการช็อปปิ้งในเสิ่นเจิ้น ว่ามันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของระบบเศรษฐกิจในสังคมปัจจุบันอย่างไร ไม่รู้ว่าพวกคุณได้อ่านกันหรือยัง แล้วบล้อกของวันนี้ผมขอเขียนถึงกีฬากอล์ฟครับ เพราะการไปเสิ่นเจิ้นทริปนี้ หลักใหญ่ใจความจริงๆ คือการไปทำข่าวการแข่งขันกอล์ฟ และการเยี่ยมชมสนามกอล์ฟ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมร่วมก๊วนไปกับนักข่าวจากฉบับอื่น ก๊วนเราออกรอบกันแบบชิวๆ ตีเล่นๆ ไม่ได้ร่วมแข่งขันอะไร นักข่าวคนอื่นตีกอล์ฟกันได้ดีพอสมควร ส่วนผมตีไม่เป็นและไม่มีไม้กอล์ฟอะไรเลยด้วยซ้ำ เลยขอเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ ติดตามไปดูพวกเขาเล่นกันเท่านั้นเอง นี่ถือเป็นการไปออกรอบตีกอล์ฟครั้งแรกในชีวิต เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน จากแต่เดิมที่เพียงแค่ดูกอล์ฟจากข่าวกีฬา หรือรายการจำพวกกอล์ฟทิปทั้งหลายแหล่

ผมจึงค่อนข้างจะถือว่าเป็นคนนอกวงการกอล์ฟ แต่ก็อยากจะเขียนบล้อกแสดงความคิดเห็นที่มีต่อกีฬาประเภทนี้สักหน่อย ว่าจากมุมมองของคนนอก ทำความเข้าใจการเล่นกอล์ฟว่าอย่างไร และความสนุกของการเล่นกอล์ฟมันอยู่ที่ตรงไหน ทำไมเดี๋ยวนี้คนถึงหันมาเล่นกันเยอะเหลือเกิน ผมว่าบางทีคนเราอาจจะไม่เคยตั้งข้อสังเกตกับตัวเองก็เป็นได้ ว่าการที่เราชอบทำอะไรสักอย่าง เราชอบมันเพราะอะไร ความดีความงามของมันอยู่ตรงไหน บางทีเราอาจจะต้องการคนนอกมาช่วยมองจากภายนอก เพื่ออธิบายตัวเราเองในมุมมองอื่นบ้าง อย่างตอนนี้ ผมกำลังจะมองจากข้างนอกเข้ามา ว่าการเล่นกอล์ฟนั้นสนุกที่ตรงไหนกันแน่ โดยแบ่งความสนุกออกเป็น 3 ระดับครับ (เป็นเลข 3 อีกแล้ว คราวที่แล้ว บล้อกเรื่อง comments ก็มี 3 ข้อ) คือ 1.ความสนุกในระดับกว้างๆ ของกีฬากอล์ฟ 2.ความสนุกในระดับที่แคบลงมาหน่อย คือในวงการคนเล่นกอล์ฟ และ 3.ความสนุกในระดับภายในตัวผู้เล่นกอล์ฟเอง

1. ความสนุกในระดับกว้างๆ ของกีฬากอล์ฟ กีฬากอล์ฟหยิบยื่นความเป็นชนชั้นสูงให้กับผู้เล่น ในรูปแบบการให้เอกสิทธิ์ในการใช้ที่ดินและทรัพยากร จำนวนมากกว่าคนอื่นในสังคม เมื่อเทียบกับกีฬาอื่นๆ กอล์ฟน่าจะเป็นกีฬาที่ใช้สนามกีฬากว้างใหญ่ที่สุด ไม่นับรวมการวิ่งมาราธอน หรือการแข่งขันไตรกีฬา จำพวกว่ายน้ำในทะเล มาต่อด้วยการปั่นจักรยาน และวิ่งระยะทางไกล เพราะพวกนั้นใช้สถานที่สาธารณะเพื่อการอื่น มาใช้ในแข่งขันเป็นครั้งคราว ไม่ได้ใช้ประจำแบบสนามกอล์ฟ ความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของสนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม การได้ขับรถกอล์ฟตามลูกกอล์ฟ ตะลุยผ่านหลุมแล้วหลุมเล่า โดยมีแคดดี้ผู้หญิงชนชั้นล่าง คอยมารองมือรองเท้าตลอดเวลา ความสนุกของกอล์ฟในระดับนี้ คือการตอกย้ำความรู้สึกลึกๆ ของผู้เล่น ให้เหมือนกับการย้อนเวลากลับไปสู่ยุคศักดินา ว่าคนเราแบ่งแยกชนชั้นกันด้วยการครอบครองดินแดนอาณาเขต สนามกอล์ฟถือเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง ที่มักจะผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในท้องถิ่นที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ ที่ดินราคาถูก คนในพื้นที่มีฐานะไม่ดี และการศึกษาต่ำ นักลงทุนที่เป็นชนชั้นสูงมาจากต่างถิ่น สามารถนำเงินก้อนไม่โตนัก ไปทุ่มซื้อที่ดินมาจากเจ้าของเดิมที่เป็นชนชั้นล่าง แล้วกวาดต้อนคนพวกนั้นมาเป็นแรงงานราคาถูก ในการปรับพื้นที่ให้เหมาะกับเกมกอล์ฟ ขุดดิน ก่อสร้าง รดน้ำ พรวนดิน รวมไปถึงการนำมาเป็นพนักงานบริการในสนาม

2. ความสนุกในระดับวงการคนเล่นกอล์ฟ กีฬากอล์ฟมีกฎ กติกา มารยาท ที่ซับซ้อน มีรายละเอียดมากกว่ากีฬาประเภทอื่น จึงเปิดโอกาสให้ผู้เล่นแต่ละคน ได้แสดงออกถึงความสามารถในการควบคุมกริยาอาการของตัวเอง ต่อสายตาผู้เล่นคนอื่นในก๊วน การควบคุมตัวเองในสนามกอล์ฟมีอยู่หลายระดับ ไล่ตั้งแต่เรื่องการควบคุมร่างกายทางด้านเทคนิคการเล่น เช่นวิธีการจับไม้ วิธีการยืนจรดลูก การหมุนคอและไหล่ การฝึกฝนวงสวิงที่ถูกต้อง เรื่อยไปจนถึงการควบคุมร่างกายตัวเองทางด้านมารยาทในสนาม เช่นการไม่เดินเหยียบไลน์พัทของคนอื่น การไม่รบกวนสมาธิคนอื่นระหว่างจะตี การจ่ายทิปงามๆ ให้แคดดี้ ไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมก๊วนคนอื่น และสุดท้าย คือการควบคุมร่างกายตัวเองในการแต่งกาย ใช้เสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะสำหรับกีฬากอล์ฟ และการเลือกใช้อุปกรณ์ไม้ตีที่ถูกต้องกับสถานการณ์ของแต่ละหลุม การไปเล่นกอล์ฟ จึงไม่แตกต่างไปจากการ social display ของชนชั้นสูง ที่จะต้องไปแสดงตัวในสังคม ตามงานเลี้ยง โรงละครโอเปร่า หรือคอนเสิร์ตฮอลล์ดนตรีคลาสสิค และไม่แตกต่างไปจากการรู้พิธีรีตรองบนโต๊ะอาหาร ที่จะต้องรู้วิธีใช้มีด ช้อน ส้อมอย่างไร เลือกไวน์อย่างไร ปฏิบัติตัวอย่างไร ความสนุกของการเล่นกอล์ฟในระดับนี้ จึงอยู่ที่ถูกมองเห็นโดยเพื่อนนักกอล์ฟคนอื่นๆ ว่าเรามีวงสวิงที่สวยอย่างไร เราเลือกใช้ไม้อย่างชาญฉลาดแค่ไหน เราปฏิบัติตัวถูกต้องตามกฎ กติกา มารยาทครบถ้วนเพียงใด และตัวนักกอล์ฟเองก็จะคอยดูนักกอล์ฟคนอื่น และประเมินเขาด้วย ว่าเขาควบคุมร่างกายได้ดีเพียงใด

3. ความสนุกในระดับภายในตัวผู้เล่นกอล์ฟเอง กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ให้ความรู้สึกแก่ผู้เล่น ว่ามันมีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่สูงมาก ความเป็นวิทยาศาสตร์ของกอล์ฟ แสดงออกมาให้เห็นชัดเจน จากความคลั่งไคล้ในเรื่อง How-to และ Tips ต่างๆ ในการเล่นกอล์ฟ รายการทีวีและหนังสือเกี่ยวกับกอล์ฟ มักจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาเหล่านี้ นักกอล์ฟรู้สึกว่าเขาสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ ถ้าเขาเรียนรู้และฝึกฝน How-to และ Tips เหล่านั้นอย่างครบถ้วน จากบรรดาโปรสอนที่มีความชำนาญในเรื่องนี้จริงๆ รวมไปถึงอุปกรณ์กอล์ฟทั้งหลาย ไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ รองเท้า แม้กระทั่งทีตั้งลูก มักจะทำการตลาดด้วยการเสนอภาพการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ ในโลกของกอล์ฟ ทุกอย่างล้วนดำเนินไปตามหลักของเหตุและผล ถ้าผู้เล่นมีเทคนิควิธีที่ดี ฝึกฝนทักษะจนชำนาญ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง ตีลูกลงไปด้วยหน้าไม้ที่ทำมุมองศาพอดี ด้วยแรงกระทำที่พอดี ย่อมจะเป็นผลให้ลูกวิ่งไปลงหลุมได้พอดี ถึงแม้ว่าจะเล่นกันอยู่ในสนามที่กว้างใหญ่แค่ไหน แต่ผู้เล่นจะยังคงรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมทุกอย่าง ได้ถูกควบคุมเอาไว้อย่างดี ด้วยการออกแบบสนาม การสร้าง และการบำรุงรักษารายละเอียดทุกอย่าง ปริมาณน้ำที่รดต้นหญ้า ความสูงของหญ้าแต่ละต้นบนกรีน ฯลฯ

ความสนุกของความเป็นวิทยาศาสตร์ จึงอยู่ที่ความสามารถในการควบคุมสรรพสิ่งรอบตัวเราได้ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในเกมกอล์ฟ อย่างการตีเกินโอเวอร์พาร์ หรือการตีไปตกบังเกอร์ทราย หรือตกบ่อน้ำ นักกอล์ฟจะคิดว่ามันเกิดจากความผิดพลาดโดยมีเหตุทางเทคนิค เช่นตีเปิดหน้าไม้มากเกินไป หรือมีวงสวิงแบบใช้หัวไหล่มากเกินไป หรือให้ไลน์มากเกินไปในการพัท จึงเกิดผลที่ผิดพลาดขึ้น ความผิดพลาดเหล่านี้จะยิ่งกระตุ้นให้นักกอล์ฟ รู้สึกอยากจะกลับมาฝึกฝนวงสวิงหรือการพัทใหม่ หรือหาโปรสอนมาแนะนำ How-to และ Tips ใหม่ๆ เพื่อให้เขามีความแม่นยำในเรื่องเทคนิควิธีมากยิ่งขึ้น

เมื่อรวมความสนุกข้อ 2 และ 3 เข้าด้วยกัน นักกอล์ฟจะควบคุมการกระทำของตัวเอง โดยอยู่ในโลกที่ควบคุมทุกอย่างเอาไว้อย่างดี เพื่อให้เกิดผลตามที่ต้องการไว้ได้ในที่สุด และเมื่อรวมข้อ 1 เข้าไปด้วย ผมคิดว่าความต้องการควบคุมตัวเองและโลกรอบตัว เป็นจริตอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคนในบางชนชั้นและในบางสังคม เท่าที่ไปออกรอบกอล์ฟที่เสิ่นเจิ้นมาในทริปนี้ ทำให้ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องกอล์ฟได้เท่านั้นครับ เมื่อเขียนออกมาแล้ว ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไร อาจจะมีผิดบ้าง ถูกบ้าง หรือแสดงความโง่อะไรออกมาบ้าง ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า

...

1 comment:

Anonymous said...

ไม่ใช่อย่างที่คิดทั้งหมดครับ

กีฬากอล์ฟ คือกีฬาที่ไม่ได้พึ่งพาศักยภาพของร่างกายเป็นหลัก ไม่เหมือนกับ นักวิ่ง นักว่ายน้ำ นักบอล นักเทนนิส ฯลฯ ไม่ใช่เรื่องของความสูงใหญ่ ความแข็งแรง
เป็นกีฬาที่เน้นสมาธิ ความรู้สึกของร่างกายและจิตใจมากกว่า
ผมคงไม่ปฎิเสธว่า กีฬากอล์ฟมีรากฐานมาจากชนชั้นสูง
แต่เมื่อพัฒนามาถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กเก็บลูกในสนามกอล์ฟมาก่อน แต่เมื่อคุณผ่านขั้นตอน
การแข่งขันมาถึงระดับโลกแล้ว ก็ไม่มีคำว่าชนชั้นอีกต่อไป เรื่องศักดินาหรือมุมกว้างของกีฬากอล์ฟนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นกอล์ฟหรอกครับ มันอยู่ในสายเลือดของมนุษย์อยู่แล้ว คนแข็งแรงกว่า ฉลาดกว่า รวยกว่า เก่งกว่า จะอยู่รอดได้ในสังคมอยู่แล้ว
การตีกอล์ฟในแต่ละช็อต คุณต้องมีสมาธิ และความสัมพันธ์ทางร่างกาย คุณต้องวางแผนการเล่นทุกครั้ง และเมื่อเกิดข้อผิดพลาด คุณต้องแก้ปัญหาในอุปสรรคต่างๆ
ซึ่งผมว่ามันคือชีวิต การใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันต่างหาก ส่วนแค๊ดดี้นั้น ในระดับโลกแล้ว แค๊ดดี้เปรียบเสมือน ที่ปรึกษา ช่วยวางแผน เสนอแนะ และแบ่งเบาภาระในเรื่องอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้นักกีฬาหเนื่อยจนเกินไป คิดว่าคงจะมีแค่ในเมืองไทยเท่านั้น ที่แค๊ดดี้เป็นที่รองมือรองเท้าชนชั้นคนเล่นกอล์ฟ (ซื่งก็ไม่ต่างจากเด็กเสิรฟ ที่ในต่างประเทศกับประเทศไทย ความเป็นอยู่และความรู้สึกต่างกันมาก)
มีอีกหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับกีฬาประเภทนี้นะครับ ที่ยังไม่ได้เขียนถึง ก็แค่มุมอีกมุมนึงให้คุณได้เห็นเพิ่มเท่านั้นเอง