Tuesday, November 14, 2006

คำหล่อๆ

...

หลายวันที่ผ่านมา ผมต้องออกไปสัมภาษณ์แหล่งข่าวติดๆ กัน จนแรงหมดเกลี้ยง กลับมาถึงบ้านก็นอนแผ่หมดสภาพ การสัมภาษณ์คนนี่บางคนอาจจะถือว่าเป็นงานที่ง่าย ผมก็คิดว่าในแง่หนึ่งมันเป็นงานที่ง่ายจริงๆ แต่สำหรับบางคนอาจจะถือว่ามันเป็นงานที่ยาก ซึ่งผมก็คิดว่าในอีกแง่หนึ่งมันก็ยากจริงๆ นั่นแหละ

ผมมองว่าการทำงานด้วยการสัมภาษณ์แหล่งข่าว แล้วเอาเนื้อหานั้นมาลงตีพิมพ์ มันง่ายเมื่อมองในแง่ที่เนื้อหาทั้งหมด ที่เราต้องการใช้นั้น มันจบสิ้น สำเร็จ ครบถ้วน จากในตัวการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ยิ่งถ้าเป็นการเขียนแบบ ถาม-ตอบ เนื้อหาที่ต้องใช้นั้นยิ่งครบถ้วนสมบูรณ์จากการสัมภาษณ์นั้นๆ แค่กลับมานั่งแกะเทป และเรียบเรียงคำพูดให้อ่านง่าย ไม่วกวน เลือกเอาคำหล่อๆ จากปากของแหล่งข่าวมาเน้นย้ำ (คำหล่อๆ บัญญัติโดยน้องคนหนึ่ง หมายถึงวลีหรือประโยคจากแหล่งข่าวคนดัง ที่ให้เราเอามาใช้เขียนงานได้แรงและดูดี) แค่นี้ก็เสร็จสมบูรณ์ในตัว เมื่อเทียบกับการทำงานเขียนชิ้นอื่นๆ ที่ต้องใช้วิธีรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง และต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์-สังเคราะห์ ก่อนจะลงมือเขียนออกมาเป็นเนื้อเรื่องยาวๆ ถ้ามองในแง่นี้ การทำงานสัมภาษณ์นั้นง่ายกว่าจริงๆ

แต่เมื่อลองมองอีกแง่หนึ่ง ถ้าการไปสัมภาษณ์ครั้งนั้นๆ แล้วไม่ได้เนื้อหาที่ดีพอกลับมา ไม่ได้คำหล่อๆ จากปากของแหล่งข่าวเลย หรือการพูดคุยวกวนไม่มีประเด็นน่าสนใจ หรือแหล่งข่าวบางคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการพูดคุยสัมภาษณ์กับเรา กรณีนี้เจอบ่อย เวลาที่ต้องไปสัมภาษณ์ดาราดังๆ ที่ส่วนใหญ่ชอบให้สัมภาษณ์แบบผ่านๆ ขอให้จบๆ ไป เพราะเขาอาจจะมองว่านักข่าวทุกคนเป็นนักข่าวสายบันเทิงเหมือนกันหมด แบบนี้หล่ะแย่แน่ๆ เพราะบทสัมภาษณ์ที่เสร็จสมบูรณ์ออกมา ก็จะไม่มีเนื้อหาชวนอ่าน และก็ไม่มีคำหล่อๆ มาให้เน้นตัวหนา เวลาเจอพวกดาราดังๆ ที่ไม่ค่อยใส่ใจกับการให้สัมภาษณ์ ผมชอบใช้วิธีถามนำพาเข้าเรื่องโน้นเรื่องนี้ ที่ดูลาดเลาว่าจะชักจูงให้เขาพูดเรื่องที่มีความขัดแย้งกันสูง อาจจะเรื่องสังคม การเมือง ปัญหาวัยรุ่น โน่นนี่นั่น ฯลฯ สักพักเขาจะหลุดคำหล่อๆ ออกมา ถ้าได้คำหล่อๆ สัก 2-3 วลีหรือประโยคจากคนพวกนี้ แค่นี้ผมก็โอเคแล้ว กลับมานั่งแกะเทป แล้วเขียนงานออกมาได้รอดตัว

คำหล่อๆ เปรียบเหมือนท่อนฮุคในเพลงป๊อป เป็นท่อนที่มีเมโลดี้เพราะที่สุด คำร้องลงตัวที่สุด ฟังแล้วสะดุดหูง่ายที่สุด และเป็นท่อนที่เมื่อเปิดขึ้นมาในผับ ทุกคนในร้านจะร้องตามได้หมด ส่วนท่อนอื่นๆ ในเพลง เอาไว้ฟังผ่านๆ จะฟังก็ได้ ไม่ฟังก็ได้ มีไว้เพื่อถ่วงเวลาทั้งเพลง ให้มีความยาวประมาณ 3-4 นาที ในระบบคิดของคนเราสมัยนี้ คงจะมีความสนใจกันแค่นี้จริงๆ ขนาดเพลงที่มีความยาวแค่ 3-4 นาที เรายังเลือกสนใจแค่ตรงท่อนฮุค ขนาดเนื้อหาในนิตยสารที่ยาวแค่ 1-2 หน้า เราก็เลือกสนใจแค่ตรงคำหล่อๆ คุณลองไปเปิดอ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร เปิดดูรายการทอล์คโชว์ในโทรทัศน์ แล้วคุณจะสังเกตเห็นเหมือนกันกับผม ว่ามันเป็นที่เอาไว้โชว์คำหล่อๆ เนื้อหาโดยรวมทั้งหมดนั้น จะดีหรือมีประโยชน์อะไรต่อเราแค่ไหน อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ

...

5 comments:

Anonymous said...

กำลังจะเอาคำนี้ไปเขียนในบล็อกตัวเองเหมือนกัน
ครับ "เรื่องคำพูดหล่อๆ"

ผมได้ยินคำนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้่วครับเพื่อนผมที่เรียนวิทยุ-โทรทัศน์ พูดกันใต้ตึกคณะ เอ๊ะอะอะไรก็ต้องใช้คำพูดหล่อๆ เท่ๆ เข้าไว้

คำพูดหล่อๆ นี่ทำให้คนหน้าตาไม่ดีนี่ดูดีขึ้นมาได้ทันที มันจึงเป็นทางลัดของพวกเราที่ชอบคิดคำพูดหล่อๆ ไว้ตอบอาจารย์ ไว้อธิบายโน่น นี่ นั่น

พอเรียนจบ มาทำงานเป็นผู้รับใช้ถ้อยคำ บางทีไอ้คำหล่อๆ นี่มันก็เป็นความเอนเตอร์เทรนของผู้อ่านเหมือนกัน ผมก็พยายามเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา

i-ha เราเขียนคำหล่อๆ ประดิด ไปให้พวกเขาขำขำไปบางก็น่าจะโอเคน่ะ แต่ไอ้คำนี่นิ มันดันอยู่ใกล้กับคำว่า "เสียว" ถ้าใช้ไม่ดี จังหวะไม่แม่งนี่ ก็เสี่ยว
Dead Air ได้เหมือนกัน

P.s มีเรื่องพาดพิงถึงชื่อพี่ที่บล็อกผม แวะไปตรวจการบ้านกันหน่อยนะพี่น้อง :)

Anonymous said...

ผมเองก็ได้ทำงานสัมภาษณ์เป็นระยะครับ
ผมคิดว่าในบรรดาการเขียนเนี่ย
บทสัมภาษณ์เป็นของยากมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยละ

Anonymous said...

‘คำหล่อๆ’ ที่ว่า
มันทำให้เรื่องน่าสนใจจริงๆ เป็นส่วนสำคัญก็จริง
แต่ว่า
ส่วนที่เหลือที่เรียกว่า ‘บริบท’ นั้น
ก็มีความสำคัญเช่นกัน
ตรงที่ทำให้ ‘คำหล่อๆ’ นั้นมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
ช่วยสนับสนุนความคิดหลัใน ‘คำหล่อๆ’ นั้น

เหมือนกับเพลงป๊อป
ท่อนฮุคนั้นเป็นใจความสำคัญของเพลงก็จริง
แต่เนื้อเพลงท่อนอื่นก็ช่วยส่งเสริมความรู้สึกของเพลง
ช่วยขับใ้ห้แก่นของเพลงนั้นเด่นออกมา
เพราะเนื้อเพลงย่อมไปในทิศทางเดียวกันหมดทั้งเพลง

แต่ไม่รู้ว่า
‘การสัมภาษณ์’ จะใช้ความคิดนี้ได้รึปล่าว ?

Anonymous said...

ไม่มี "คำสวยๆ" เหรอ

เคยทำงานสัมภาษณ์มาบ้างเหมือนกัน
เวลาเจอประโยคทองที่หลุดอกมาจากปากคนให้สัมภาษณ์จะดีใจมาก

ประโยคทองที่ว่าคือประโยคที่อธิบายคนถูกสัมภาษณ์
ประโยคที่แสดงความเป็นคนๆ นั้น

เวลาที่ไม่ได้ประโยคเหล่านั้นมา
จะรู้สึกล้มเหลว
หมายถึงผู้สัมภาษณ์ล้มเหลว

Anonymous said...

คำหล่อๆ คำสวยๆ นี่ไม่ค่อยคุ้นนะ แต่คุ้นกับ "ประโยคทอง" มากกว่า และคิดว่าความหมายครอบคลุมดีนะ

ถ้าจะว่าไปแล้วสมัยนี้เข้าใจว่า "ประโยคทอง" ต่างๆ จะไปปรากฎตามชื่อ MSN ของสิงห์ท่องเน็ต นัก Chat ทั้งหลายให้เกลื่อนกลาด อาจเป็นประโยคทองของตัวเองที่ตั้งเอง หรือปรพโยคทองของคนอื่นที่เราชอบ ก็ว่ากันไป