Friday, October 06, 2006

มันฝรั่งทอด (1)

...

เมื่อวานนี้เขียนบล้อกเกี่ยวกับนมเปรี้ยวพร้อมดื่มบรรจุกล่องไปแล้ว วันนี้ขอเขียนถึงมันฝรั่งทอดซองๆ หน่อยเถอะครับ ผมเขียนบล้อกสองเรื่อง เกี่ยวกับของกินจุกจิกในชีวิตประจำวัน ที่หาซื้อได้ง่ายๆ ในร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำ และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ติดๆ กันสองวันซ้อน ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนเพื่อให้คำแนะนำในการซื้อ ว่าควรอ่านฉลากก่อนซื้อสินค้า หรือควรเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาดนะครับ ผมเขียนบล้อกสองเรื่องนี้ติดๆ กันสองวัน เพื่อตั้งคำถามกับเรื่องแก่นสารกับเปลือกนอก ข้าวของสินค้ารอบๆ ตัวในชีวิตประจำวันเรา บางทีมันก็สะท้อนให้เห็นได้เหมือนกัน ว่าในโลกปัจจุบัน พวกเราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า


1. มันฝรั่งทอดซองๆ 2 ยี่ห้อ ยี่ห้อหนึ่งขายดีอันดับหนึ่ง มีวางขายในร้านค้าทุกร้าน วางเรียงเป็นแนวยาว กินพื้นที่ชั้นวางมากที่สุด ส่วนอีกยี่ห้อ ขายดีรองลงมา หาซื้อไม่ค่อยได้ เพราะยี่ห้อมันไม่ดัง ถึงจะมีวางขายในร้านหรือห้างไหน ก็มีพื้นที่วางน้อยๆ


2. ยี่ห้อหนึ่ง ไม่บอกว่ายี่ห้อไหน ราคาซองละ 5 บาท น้ำหนัก 17 กรัม มีส่วนผสมของมันฝรั่ง 91.4% นอกนั้นเป็นน้ำมันและเกลือ


3. อีกยี่ห้อหนึ่ง ไม่บอกว่ายี่ห้อไหน ราคาซองละ 6 บาท น้ำหนัก 20 กรัม มีส่วนผสมของมันฝรั่ง 67% นอกนั้นเป็นน้ำมันและเกลือ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกกินยี่ห้อไหนล่ะ


4. เป็นผมนะ ผมไม่ซื้อมากินเลยครับ เพราะรสชาติมันห่วยแตก แถมยังแพงแบบไร้สาระ พอๆ กันทั้งสองยี่ห้อนั่นแหละครับ เพียงแต่ยี่ห้อหนึ่งดูดีมีแก่นสารมากกว่าอีกยี่ห้อหนึ่งหน่อยเท่านั้น ภาพนี้คือเมื่อแกะซองแล้วเทออกมาดู จะเห็นว่าข้างในมีแผ่นมันฝรั่งบางๆ ประมาณไม่เกิน 20 แผ่น ที่เห็นซองใหญ่ๆ พองๆ นั่นคือมันหลอกตาครับ เขาอัดก๊าซเฉื่อยไนโตรเจนเข้าไป เพื่อถนอมอาหารไม่ให้หืนและชื้น

เดี๋ยวบล้อกของวันพรุ่งนี้ จะมาเขียนถึงการตลาดของมันฝรั่งทอดซองๆ ว่าทำไมมันถึงยังมีคนซื้อมากิน ทั้งๆ ที่ห่วยแตกแบบนี้

...

5 comments:

The Carnivalesque said...
This comment has been removed by a blog administrator.
The Carnivalesque said...

นั่นสิ
อาหารอุตสาหกรรมอ่ะ อืมมม

วันก่อนอยากกินแคบหมู ก็เลยไปซื้อแคบหมูฝรั่งมาทาน ไม่อร่อยหรอก แต่พอมาอ่าน blog ของพี่ Aesthetic ก้เลยลองเอา package มาอ่าน
อืมมม

นี่คือ แคบหมูฝรั่งนะ ประกอบไปด้วย

Pork Rind, salt, Rusk (wheat flour, water, salt, raising agent (E503)), flavourings, hydrolysed vegetable protein, sugar, flavour enhancer (E621), colours (E150c, E160c), dextrose, sunflower oil, anti-caking agent (E551)

อืมมมม เดี๊ยนแค่อยากกินแคบหมู นึกถึงแค่ แคบหมูคือหนังหมูทอดกรอบใส่เกลือนิดหน่อย พอเห็น E-numbers แล้วไอ้ชื่อภาษาฝรั่งแปลก ๆ มันอะไรหว่า อาหารมนุษย์ต่างดาวเหรอ อืมมม ทานไม่ลงเลยอ่ะ

แล้วเดี๊ยนก็อยากดื่มน้ำเต้าหู้ตอนเช้า แต่อยู่อังกฤษ ไม่มีใครมาต้มขายหรอกนะ ก็ต้องไปซื้อ Soya milk มาทาน ก็คือนมถั่วเหลืองนั่นแหล่ะ ที่ฉลากหน้ากล่องตัวหนังสือใหญ่มากเขียนบอกว่ามี calcium กับ vitamins

เราก็เลยลองพลิกด้านหลังกล่อง น้ำเต้าหู้ฝรั่ง ประกอบไปด้วย

Water, Hulled soya beans (6.4%), Raw can sugar, Tri-calcium phosphate, Maltodextrin, Sea salt, Stabiliser: Gellan gum, Vitamins: E, Riboflavin, D and B12, Potassium iodide.

ที่อันนี้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าแคบหมูนะ ถึงแม้จะมีชื่อแปลก ๆ เหมือนอาหารมนุษย์ต่างดาว แต่ไม่มี E-mumbers แต่เอ็งกระแดะใส่ stabiliser มาทำยั๊งงงงงงงงง?????

เฮ้อออ
ยิ่งประเทศที่เจริญมาก อุตสาหกรรมอาหารใหญ่มาก อาหารต้องเดินทางไกลมาก อาหารต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการมาก ยิ่งใช้สารเคมีมาก ยิ่งห่างไกลจากธรรมชาติมาก

เดี๊ยนคิดว่า อาหารที่ดีที่สุด คืออาหารที่ธรรมดาที่สุด ปรุงแต่งน้อยที่สุด ใช้สารเคมีน้อยที่สุด ไม่ต้องเดินทางข้ามโลกมาเข้าปากเรา อาหารอุดมคติแบบนี้ ยังจะหาได้อยู่มั้ยหนอ

แนะนำหนังสือดีกว่า ของ Felicity Lawrence ตีพิมพ์ปี 2004

Not on the Label: What Really Goes into the Food on Your Plate

http://www.amazon.co.uk/s/ref=nb_ss_w_h_/026-8708102-1479630?url=search-alias%3Daps&field-keywords=not+on+the+label

Anonymous said...

ที่อังกฤษ เค้ามีรณรงค์ไม่ให้เด็กกินมันฝรั่งพวกนี้ เพราะเดี๋ยวนี้เด็กอ้วนกันเยอะมากอ่ะ

Anonymous said...

เปลี่ยนจากมันฝรั่งถุง เป็นผักสดซัก 5 บาท มาเคี้ยวกินเล่นดีกว่า

Anonymous said...

ขนมถุงๆ เราไม่ค่อยซื้อ ซื้อก็เป็นห่อๆ แบบเวเฟอร์
ส่วนขนมมันๆ ก็นิยม มันบด มันแกงบวช มันเชื่อม มันต้มน้ำขิง มันนึ่ง (สีเหลือง/สีม่วง) เทือกๆ นี้มากกว่า
มันฝรั่งทอด เห็นถุงแล้วเหนื่อยใจ เพราะรู้ว่าข้างนอกเป่ง ข้างในเหี่ยว


...ตุ๊ก ตุ๊ก วิ่งผ่าน...