Sunday, March 15, 2009

The Deer Hunter - เซนต์คาเบรียล


...


ความทรงจำอันลางเลือนในวัยเด็ก ตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นป.1 นั่นคือเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน (-_-") ย้อนกลับมาอีกครั้ง เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนเดินทางไปเชียงราย และแวะไปซื้อแผ่นหนังดีวีดีมาหลายแผ่นจากตลาดแม่สาย (Unbreakable ที่เขียนวิจารณ์ไปเมื่อวานก็ด้วย) เลยได้แผ่นหนังแบบ D9 เรื่อง The Deer Hunter มาด้วย

หนังเรื่อง The Deer Hunter กำกับโดย ไมเคิล ชิมิโน นำแสดงโดย โรเบิร์ต เดอนีโร มาถ่ายทำในประเทศไทยหลายฉาก มีฉากหนึ่งมาถ่ายทำที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่ ป.1 พอดี

ตอนนั้นผมยังเด็กมาก เลยจำรายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ครูที่โรงเรียนก็ไม่ได้มาบอกอะไรให้ฟังเท่าไร มีภาพที่จำได้ในหัว คือเห็นทีมงานก่อสร้างฉากมาจัดการปรับสภาพบริเวณหน้าโรงเรียน และตึกหอประชุมเดอมงต์ฟอร์ด ให้กลายเป็นฉากสถานทูตอเมริกันในกรุงไซง่อน เขาใช้เวลานานอยู่ 1-2 อาทิตย์ก่อนวันถ่ายทำ พวกเขาถ่ายทำกันในวันเสาร์อาทิตย์ที่โรงเรียนปิด ในเย็นวันศุกร์ก่อนการถ่ายทำ มีทีมงานฝรั่งเดินกันขวักไขว่ถือวอล์คกี้ทอล์คกี้คุยกัน และมีเฮลิคอปเตอร์ทหารมาจอดอยู่กลางสนามหญ้าของโรงเรียน

ภาพโรงเรียนเซนต์คาเบรียลปรากฎในหนัง The Deer Hunter นานประมาณแค่นาทีกว่าๆ เป็นฉากตอนท้ายของเรื่อง โรเบิร์ต เดอนีโร ในบทของไมเคิล เดินทางกลับมายังประเทศเวียดนามอีกครั้ง ในช่วงท้ายของสงคราม เพียงไม่กี่วันก่อนกรุงไซง่อนจะแตก และอเมริกาต้องถอนทหารออกไป เพื่อตามหาเพื่อนสนิท รับบทโดย คริสโตเฟอร์ วอล์คเค่น ที่ยังตกค้างอยู่

1. เฮลิคอปเตอร์ทหารมาลงจอดบนหลังคาของสถานทูตอเมริกัน ผมไม่แน่ใจว่านั่นคือดาดฟ้าของตึกเดอมงต์ฟอร์ดหรือเปล่า เพราะไม่เคยขึ้นไปบนนั้น


2. นี่ครับ โรเบิร์ต เดอนีโร ตอนนั้นเขาถือว่าเป็นดาราใหญ่ของฮอลลีวู้ดแล้วนะ เพราะเพิ่งโด่งดังมาจากหนังเรื่องเดอะก็อดฟาเธอร์


3. เฮลิคอปเตอร์ลำนี้มาส่งเดอนีโรเสร็จ ก็รับเจ้าหน้าที่สถานทูตอพยพออกจากประเทศเวียดนาม มองเห็นทิวทัศน์จากมุมสูงของกรุงเทพฯ เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ทางมุมซ้ายของภาพ


4. ภาพตัดเข้ามาภายในสถานทูตอเมริกัน ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็คือตึกเดอมงต์ฟอร์ดนั่นเอง ผมจำพัดลมระบายอากาศทางด้านบนของภาพนี้ บริเวณนี้จริงๆ แล้วเป็นระเบียงบันได ที่มีตู้วางโชว์เปลือกหอยและสัตว์ทะเลสตัฟฟ์ ทีมงานก่อสร้างฉากจัดการขนย้ายมันออกไป แล้วแต่งให้ดูเหมือนเป็นออฟฟิศที่รกรุงรัง


5. ภาพตัดมาที่บริเวณหน้าสถานทูตอเมริกัน ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือบริเวณถนนสามเสน หน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียลนั่นเอง สัญลักษณ์โรงเรียนถูกนำออกไป และแทนที่ด้วยตราสัญลักษณ์สถานทูตอเมริกัน รูปนกอินทรีย์กางปีกในวงกลมสีทอง ประตูรั้วยังคงเป็นประตูโรงเรียนอยู่ แต่เขานำแผงกั้นจราจรสีแดงมาใส่เพิ่มเติม ฉากนี้ชาวเวียดนามในไซง่อนกำลังขอเข้าไปในสถานทูตเพื่อขออพยพและหนีตายจากทหารเวียดกง


6. รถของเดอนีโรกำลังขับออกมา โคลสอัพให้เห็นบริเวณหน้าประตูโรงเรียนแบบชัดๆ


7. ภาพแทนสายตาของเดอนีโร เมื่อเขากำลังนั่งรถผ่านประตูสถานทูต มองเห็นชาวเวียดนามกำลังพยายามปีนเข้าไปข้างใน ฉากนี้เป็นตึกเดอมงต์ฟอร์ดได้ชัดเจน ทีมก่อสร้างฉากปรับสภาพบริเวณหน้าต่างของตึก โดยนำโฟมและปูนปลอมมาโบกไว้ให้ดูทึบๆ


8. รถของเดอนีโรออกจากสถานทูตไปได้แล้ว ชาวเวียดนามส่วนหนึ่งกำลังโกรธแค้นทหารอเมริกัน ก็เลยปาข้าวของใส่ มีคนบอกว่าตัวประกอบส่วนใหญ่ในฉากนี้ คือคนไทยที่อาศัยอยู่ในละแวกโรงเรียนนั่นแหละ เป็นคนในชุมชนบ้านญวนที่อาศัยอยู่ในซอยมิตรคาม ในซอยนั้นมีโรงเรียนชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่นเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์ และโยนออฟอาร์ค


9. โคลสอัพหน้าโรเบิร์ต เดอนีโร ต้นไม้เป็นพุ่มแหลมๆ ที่เห็นอยู่ด้านหลังนั้น คือต้นสนอโศกอะไรสักอย่าง แต่ที่โรงเรียนเราเรียกว่า "อโศกเซนต์" ถือเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน

หลังจากวันถ่ายทำไปอีกหลายเดือน หนังก็เข้าฉายในประเทศไทย คนส่วนใหญ่จดจำหนังเรื่องนี้ได้เพราะฉาก "รัสเซียนรูเล็ตต์" อันโด่งดัง หนังมาเข้าฉายที่โรงศรีย่านเธียเตอร์ ซึ่งเป็นโรงหนังที่อยู่ติดกับบ้านผมเลยทีเดียว แค่เดินไป 30-40 ก้าวก็ถึงหน้าโรงหนังแล้ว ผมอยากดูมากๆ พยายามรบเร้าให้แม่พาไปดูให้ได้ แต่แม่ก็บอกว่าไม่ว่างๆ เพราะต้องทำงานทั้งวัน จนผมลงไปร้องไห้กองอยู่กับพื้นแบบเด็กๆ

ท้ายที่สุด แม่ทนการรบเร้าของผมไม่ไหวก็เลยต้องพาไปดู ตั๋วหนัง 2-3 แถวหน้าสุดของโรงในสมัยนั้นราคาแค่ 10 บาทเอง น่าแปลกที่ผมจำได้แค่ว่าได้ไปดูหนังเรื่องนี้กับแม่ นั่งประมาณแถวหน้าๆ ของโรง แต่ผมกลับเนื้อหาในหนังเรื่องนี้ไม่ได้เลย จำได้แค่ภาพโรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่โผล่มาในหนังแค่แว้บๆ ไม่ถึงนาทีในหนัง สงสัยว่าตอนนั้นจะเด็กเกินไป

จนเมื่อเวลาผ่านไป 30 ปี ผมก็เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งทางแผ่นดีวีดีแม่สาย

...

2 comments:

Anonymous said...

จำได้ว่าดูหนังสมัยมัธยม ตอนที่เริ่มหัดดูหนังใหม่ๆ มีหลายฉากที่ดูหลุดๆ ไปเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงถ่ายในไทย ซึ่งโทนสี และการคุมฉากยากกว่า

แต่เป็นหนังที่ผมคิดว่าอยู่ตรงกลางดีสำหรับคนที่ไม่เข้าใจสงครามเวียดนาม ระหว่าง Platoon กับ Apocalypse Now

Anonymous said...

น่าจะเป็นโรงเรียนแรกๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฉากประกอบหนัง
ตอนนั้นผมก็ ป1 เหมือนกัน น่าจะอยู่ห้องข้างๆ คุณนี่แหละ

โตมาอีกหน่อย โรงเรียนเราก็ได้รับเกียรติในมิวสิควิดีโอของนิธิทัศน์ วงพลอยมั้ง เผอิญมาเรียนพิเศษแล้วเจอ

ถ่ายซะอย่างกับโรงเรียนอินเตอร์

ต้องยอมรับว่า ที่นี่สถาปัตยกรรมน่าสนใจจริงๆ

-- จากเพื่อนที่ติดตามผลงานเสมอๆ