Monday, December 15, 2008

วิธี rebranding หมอกฤษณ์คอนเฟิร์มภายใน 5 เดือน


...


เพิ่งดูข่าวหมอกฤษณ์คอนเฟิร์มหน้าแหกเลิ่กลั่กบนเวทีกลางที่สาธารณะ เลยมานั่งคิดเล่นๆ ว่าถ้าตัวเองเป็นหมอกฤษณ์ หรือถ้าตัวเองเป็นผู้จัดการส่วนตัว หรือเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้ไอ้หมอดูลวงโลกคนนี้ ผมจะแก้สถานการณ์หน้าแหกคราวนี้ไปได้อย่างไร และจะขายตัวเองต่อไปได้อย่างไร

คิดเล่นๆ เพ้อๆ นะ เขียนแบบเพ้อเจ้อฟุ้งไปเรื่อย อย่าซีเรียส


เฟสแรก

1. พรุ่งนี้วันอังคาร นัดแถลงข่าวตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้า ขอโทษลิเดียและครอบครัวของลิเดียอย่างเป็นทางการ และประกาศว่าจะขอนัดหมายวันเวลาเพื่อเดินทางไปกราบเท้า
2. วันพุธ ถ้าครอบครัวลิเดียปฏิเสธ ไม่ยอมรับการกราบเท้าขอโทษ ก็ไปร้องห่มร้องไห้ออกรายการข่าวบันเทิง บอกว่าตนเองสำนึกผิดแล้ว ยอมทำทุกอย่างเพื่อขอร้องให้ลิเดียและครอบครัวเลิกฟ้องร้อง (เพราะไม่งั้นแพ้คดีแหงๆ อยู่แล้ว)
3. วันพฤหัส ออกมายอมรับว่าตนเองเป็นคนนิสัยไม่ดี ชอบปากมาก ปากเปราะ แต่สิ่งสำคัญที่สุด ต้องอย่ายอมรับว่าวิชาดูดวงบริเฉจ 7 ดาวที่อวดอ้างเอาไว้ตั้งแต่ต้นนั้นลวงโลก ต้องยืนยันให้หนักแน่นว่าวิชานี้มีอยู่จริง แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง ทำให้เมื่อนำมาใช้แล้วอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
4. วันศุกร์ แถลงข่าวว่าตนเองจะออกบวชที่วัดป่าห่างไกลไร้ผู้คน โดยไม่มีกำหนดสึก เพื่อเป็นการล้างบาป ดัดนิสัยตนเอง อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และอ้อนวอนอีกครั้งให้ครอบครัวลิเดียยกโทษให้
5. หลังจากนี้ไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์เต็มๆ จะต้องทำตัวให้ดูเหมือนว่าโลว์โปรไฟล์สุดๆ หยุดแถลงข่าวทุกอย่าง งดให้สัมภาษณ์ทุกสื่อ ไม่ไปปรากฏตัวในงานอีเวนต์ใดๆ (แต่เมื่อเรายิ่งทำตัวโลว์โปรไฟล์ นักข่าวบันเทิงจะยิ่งพยายามวิ่งตามเรามากขึ้น เราก็ทำตัวยึกยัก แอบๆ หลบลี้หนีหน้า ทำหน้าสำนึกผิดหน่อย ร้องให้อีกนิด ทำให้อีกตลอดอาทิตย์นี้ ก็ยังคงมีข่าวเราอยู่ทุกวันอยู่ดี โดยมีข่าวครอบครัวลิเดียเป็นข่าวรอง นักข่าวบันเทิงจะต้องวิ่งไปถามว่าจะยกโทษให้หมอกฤษณ์หรือไม่ ยกโทษให้เขาเถอะ เลิกแล้วต่อกันเถอะ)

--- เมื่อจบเฟสแรก ประชาชนส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกว่าเราทำเยอะแล้ว ขอโทษมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะได้รับการอโหสิกรรมเสียที เพราะเราจะไปบวช ---


เฟสสอง

1. ช่วงอาทิตย์แรกของปีใหม่ หลังจากที่ผู้คนกลับมาจากวันหยุดเทศกาล ก็จะเริ่มทำงานกันตามปกติ ด้วยความเบื่อหน่ายงานและชีวิต ก็จะต้องการเสพข่าวบันเทิงอีกครั้ง นั่นคือโอกาสที่เราจะได้ปล่อยข่าวการออกบวช
2. วันจันทร์ที่ 12 มกราคม เริ่มปล่อยข่าวว่าเราจะไปบวชที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง ในภาคอีสาน เป็นวัดที่เคร่งครัดในการปฏิบัติอย่างมาก และมีเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นผู้ก่อตั้ง เช่นวัดหนองป่าพง อะไรทำนองนั้น
3. วันพุธที่ 14 มกราคม จัดงานแถลงข่าวว่าเราจะออกบวชจริงๆ แต่เราไม่ขอเปิดเผยว่าที่วัดไหน เพราะต้องการศึกษาพระธรรมอย่างสงบจริงๆ ในช่วงนี้ ในกรณีที่ไม่ถูกฟ้องร้องมีคดีติดตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าถูกฟ้องร้อง ก็ให้บอกว่าเราจะไปบวชไม่นาน แล้วรีบสึกกลับมาขึ้นศาลทุกนัดแน่นอน เป็นการเรียกคะแนนสงสาร ว่าอุตส่าห์ยอมสึกออกมา
4. วันจันทร์ที่ 19 มกราคม ไปบวชโดยทำท่าทีว่าเป็นความลับ แต่จริงๆ แอบปล่อยข่าวให้หนังสือพิมพ์บันเทิงบางเล่ม ให้แอบไปทำข่าวได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นประจักษ์พยานว่าเราได้ไปบวชจริงๆ นะ
5. หลังจากนี้อีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ ไปจนถึงหมดเดือนมกราคม ให้เราทำตัวโลว์โปรไฟล์อีกครั้ง

--- เมื่อจบเฟสนี้ จะเป็นการล้างบาปทั้งหมดที่เคยก่อมา เป็นการนำตัวออกจากภาพของการเป็นหมอดู และนำตัวไปอ้างอิงกับศาสนาพุทธ ---


เฟสสาม

1. เว้นเวลาไปสัก 1-2 เดือนเป็นอย่างน้อย ทำตัวให้โลว์โปรไฟล์เข้าไว้ โดยขึ้นอยู่กับว่าโดนคดีฟ้องร้องหรือไม่


เฟสสี่

1. ก่อนเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้เริ่มปล่อยข่าวอิทธิปาฏิหารย์ต่างๆ ที่พบเจอระหว่างที่กำลังออกบวชในวัดป่า เจอผี เจอเปรต กลัวจนแทบจะขาดใจ แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยการฝึกปฏิบัติสมาธินี่นั่นโน่น
2. หลังจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มปล่อยข่าว ว่านอกจากจะได้เจอผีสางต่างๆ แล้วนี้ ก็ได้เจอวิญญาณของเกจิอาจารย์ดังๆ มาปรากฏตัวให้เห็น และมาสอนวิชาต่างๆ มากมาย
3. ปล่อยข่าวค้นพบวิชาฝึกจิตตามแนวเกจิอาจารย์ ตามแนวศาสนาพุทธ ทำให้ตนเองเริ่มมีพลังจิตแรงกล้า ด้วยความที่ตัวเองมีพื้นฐานวิชาบริเฉจ 7 ดาวมาก่อน ทำให้เรียนรู้วิชาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และพลังยุทธ์รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว อาจจะบอกว่าสามารถระลึกชาติได้ ตัดกรรมได้ หรืออะไรประมาณนั้น
4. ประมาณช่วงสงกรานต์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจากหนังสือพิมพ์บันเทิงสัก 1-2 ฉบับเป็นอย่างน้อย โดยให้สัมภาษณ์ในชุดผ้าเหลือง ในกุฏิที่ตนเองจำวัดอยู่ ควรเป็นกุฏิเก่าๆ ซอมซ่อ บอกเล่าถึงชีวิตในผ้าเหลืองของตนอย่างละเอียด
5. จ้างโกสต์ไรเตอร์เก่งๆ มาเขียนหนังสือเกี่ยวกับตนเอง ให้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ
- ประวัติการต่อสู้ชีวิตในวัยเด็ก
- หลักวิชาบริเฉจ 7 ดาว
- หลักคิดในการดำเนินชีวิตง่ายๆ เช่นการมีสติ ความพอเพียง ความรัก การให้ ธรรมะอินเทรนด์ ฯลฯ
- เรื่องราวประสบการณ์อิทธิปาฏิหารย์เหนือธรรมชาติที่เคยพบ

--- เมื่อจบเฟสนี้ จะทำให้เราหลุดออกจากการเป็นหมอดูตามหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิง แต่จะกลายเป็นพระที่มีภูมิรู้ และแอบแฝงเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ไว้เล็กน้อย ---


เฟสสุดท้าย

1. ลาสึกออกมา ในสภาพร่างกายที่ผอมลง ผิวดำคล้ำ มีบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ทำตัวแรงๆ กระโชกโฮกฮากอีกแล้ว แต่เราจะเยือกเย็นลง พูดช้าๆ พูดเบาๆ และพูดอะไรก็ต้องอ้างอิงเรื่องธรรมะตลอดเวลา
2. กลับเข้าสู่วงการบันเทิง ในฐานะผู้ที่มีภูมิรู้เกี่ยวกับศาสนา ปรัชญา จิตวิญญาณ และเรื่องเหนือธรรมชาติ กรรม ระลึกชาติ ฯลฯ

--- เมื่อจบเฟสนี้ หมอกฤษณ์จะกลับมาหากินหลอกลวงประชาชนได้อีกครั้ง โดยตัดภาพหมอดูบ้าๆ บอๆ ออกไปได้อย่างเด็ดขาด และสวมภาพพจน์ใหม่ รีแบรนดิ้งตัวเองใหม่หมดได้สำเร็จ ---


...


1 comment:

Anonymous said...

กลายเป็นว่าเราติด blog คุณไปแล้ว หิๆๆ
ชอบแนวคิดคุณจัง ฮาสนั่นดีครับ ว่างๆๆ เหงาๆ
เราจะเข้ามาอัพข่าวสารจากบล๊อคคุณใหม่
ปล ; ยินดีรู้จักเช่นกันครับ