Tuesday, June 17, 2008

สิ่งที่ให้ - สิ่งที่ได้รับ

...


ภาพถ่ายจากจอทีวีเมื่อกี้นี้เอง ทางช่อง 7 รายการ 7 กะรัต มีนีโน่เป็นพิธีกร คืนนี้เชิญชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ตต์ มาเป็นแขกรับเชิญ คุยกันเรื่องที่คุณพ่อเธอป่วยหนักและคนไทยช่วยกันบริจาคเลือดให้พ่อเธอจนพ้นขีดอันตราย ผมคว้ากล้องดิจิตอลขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้ช็อตแรก เพราะคาดไว้ในใจ ว่าเดี๋ยวพอตัดเข้าช่วงโฆษณา คงจะต้องได้เห็นอะไรดีๆ แน่นอน และก็เป็นไปตามอย่างที่คาดไว้จริงๆ เลยถ่ายภาพช็อตต่อๆ มา แล้วนำมาโพสต์ในนี้

นี่คือสิ่งที่เธอได้รับ เมื่อคุณพ่อป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาล และต้องการได้รับเลือดกรุ๊ปที่หายาก เพื่อนดาราและนักข่าวก็ช่วยกันกระจายข่าว ทำให้ประชาชนช่วยกันมาบริจาค หมอที่โรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้ได้รับเลือดมามากเพียงพอแล้ว และอาการของคุณพ่อเธอก็ดีขึ้นแล้ว เธอกล่าวขอบคุณ ซาบซึ้งน้ำใจคนไทย




นี่คือสิ่งที่เธอทำให้กับสังคม พอตัดเข้าช่วงโฆษณา ก็ฉายโฆษณาสินค้าที่ใช้เธอเป็นพรีเซนเตอร์ คือยาระบายยี่ห้อหนึ่ง ภาพถ่ายเรือนร่างของเธอผอมเพรียว ขาวเนียน บิดไปบิดมา ยั่วอารมณ์ทางเพศ เพราะว่าเธอกินยาระบายยี่ห้อนี้ สรุปคือทางรายการนำเธอมาสัมภาษณ์ ก็เพราะสปอนเซอร์หลักของรายการ ใช้เธอเป็นพรีเซนเตอร์








ก่อนหน้านี้ ยาระบายยี่ห้อนี้วางขายและนำเสนอโฆษณาในฐานะที่เป็นยาลดความอ้วนอย่างโจ่งแจ้ง จนล่าสุดคงจะโดนหน่วยงานด้านสาธารณสุขของไทยเข้าไปตักเตือน ว่าห้ามโฆษณาแบบนี้ เขาเลยทำการดัดแปลงวิธีการโฆษณาเสียใหม่ ใช้วิธีคิดแบบศรีธนญชัย คือนำเสนอภาพพรีเซนเตอร์ผอมๆ แห้งๆ วางเคียงหรือ Juxtapose กับยาระบาย เพื่อเชื่อมโยงภาพความผอมเข้ากับสินค้าของตน ดังนั้น ถึงแม้ในตอนท้ายโฆษณาจะมีเสียงบรรยายว่าห้ามใช้ยานี้เป็นยาลดความอ้วน แต่ภาพที่ปรากฏในโฆษณาทั้งหมด มันชวนให้ใช้ยานี้ไปเพื่อการลดความอ้วนอย่างชัดเจน คนที่มีสำนึกดีๆ ต่อสังคม ไม่น่าจะทำแบบนี้เลยจริงๆ ทั้งครีเอทีฟโฆษณาและทั้งพรีเซนเตอร์โฆษณา

หลายปีก่อน ผมจำได้แม่นว่าชมพู่เคยไปออกรายการทอล์คโชว์รายการหนึ่ง พูดถึงอาการ Eating Disorder ของตนเอง เธอบอกว่าเจ้าของช่องที่เธอเล่นละครประจำ เรียกเธอไปเตือนว่าชักจะอวบอ้วนเกินไปแล้ว ทำให้เธอเริ่มต้นมีนิสัยกินแล้วไปอ้วกทิ้ง หรือเรียกว่าโรคบูลิเมีย เธอออกมาเล่าออกรายการอย่างน่าสงสาร ว่าเธอได้รับความทุกข์ทรมานอย่างไรกับการลดความอ้วนแบบผิดวิธี และบอกว่าเธอรักษาอาการ Eating Disorder หายแล้ว จึงต้องการจะเตือนผู้หญิงไทยคนอื่นๆ ว่าให้ห่วงสุขภาพตัวเอง อย่าไปหมกมุ่นเรื่องความอ้วนความผอมมากนัก ในตอนนั้นผมชื่นชมเธออย่างมาก

แต่ในวันนี้ ผมเห็นสิ่งที่เธอได้รับจากสังคมไทย และได้เห็นสิ่งที่เธอทำกับสังคมไทยแล้ว ผมเซ็ง


...

No comments: