Friday, May 09, 2008

อรปรียา

...





เมื่อเช้าดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เห็นอรปรียาปล่อยมุขเลวๆ แล้วทนไม่ไหวจริงๆ

พอดีวันนี้มีเด็กนักเรียนนักศึกษาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาเยี่ยมชมการจัดรายการในห้องส่ง สรยุทธ์ก็กล่าวแนะนำแล้วก็สวัสดีทักทายกันตามปกติที่เคยทำเวลามีคนมาเยี่ยมดูการถ่ายทำรายการ

สรยุทธ์บอกว่าดีใจที่น้องๆ เหล่านี้ได้มาเปิดหูเปิดตาในกรุงเทพฯ แล้วสรยุทธ์ดันพลั้งปากพูดมาแว้บเดียว ว่าเอาไว้เดี๋ยวพวกเราจะไปเยี่ยมน้องๆ บ้าง (หมายถึงจะไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้)

อรปรียาซึ่งปกติจะหัวช้าและดูน่าเบื่อที่สุด ตอบโต้มุขคนอื่นไม่ค่อยทัน ได้แต่พูดว่า ค่ะๆ ค่าๆ แทรกมาตลอดเวลาที่คนอื่นพูด แต่คราวนี้ไม่รู้แว้บนั้นเธอคิดอะไรในหัว คงคิดว่าถึงเวลาที่ตัวเองต้องปล่อยมุขแล้ว และคิดมุขเด็ดขึ้นมาได้พอดี

เธอเลยรีบแทรกถามสรยุทธ์ว่า ใครจะไปคะ? คุณสรยุทธ์จะไปเหรอคะ? จะไปแน่เหรอคะ? ถามวนอยู่แบบนี้

สรยุทธ์หยุดกึก ทำท่าอึกอักๆ

อรปรียายังไม่ยอมหยุดมุขนี้ เธอยังคงถามรุกสรยุทธ์ต่อไปอีก คุณสรยุทธ์จะไปวันไหนคะ? ไปวันไหน? ไปแน่เหรอคะ? ถามวนอยู่แบบนี้อีกสักพัก พร้อมกับหัวเราะหึๆ ทำหน้าภูมิใจเหมือนกับกำลังคิดว่ามุขฉันเด็ดไหมล่ะ ฮาไหมล่ะ

สรยุทธ์คงจะชักทนไม่ไหว เลยบอกเธอไปว่า ใครๆ ก็รู้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังมีปัญหารุนแรง แต่คุณอย่าพูดแบบนี้ เดี๋ยวน้องๆ เขาจะเสียกำลังใจ

อรปรียาคงจะเพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าเธอไม่ควรจะเอามุขแบบนี้มาเล่นออกทางทีวี ก็เลยแก้ตัว ว่าดิฉันก็อยากถามคุณสรยุทธ์ว่าจะไปวันไหน พวกเราจะได้ไปด้วยกัน ไม่ได้ตั้งใจจะพูดว่าอะไร แล้วก็หัวเราะหึๆ แหะๆ แก้เก้อไป

ผมว่ามุขแบบนี้เวลาคุยกันเองในวงเพื่อน ก็ฮาดี เพราะใครๆ ก็รู้ว่าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังมีปัญหารุนแรง น่ากลัว และไม่มีใครอยากไปหรอกถ้าไม่จำเป็น แต่มุขแบบนี้สมควรจะเอามาหยอกล้อกันออกทางหน้าจอทีวีตอนเช้าๆ เหรอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อหน้าเด็กนักเรียนจากภาคใต้หลายสิบคนที่มานั่งชมการถ่ายทำรายการอยู่

ตามปกติแล้ว อรปรียาจะเป็นพิธีกรคุยข่าวที่ดูน่าเบื่อและน่าอึดอัดที่สุด ผมดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้เกือบทุกเช้า และคิดว่ารายการนี้ในวันศุกร์จะเป็นวันที่น่าเบื่อที่สุด เพราะเป็นวันที่เธอมาร่วมจัดรายการ โดยส่วนใหญ่เธอจะทำหน้าที่เล่าข่าวแนวชาวบ้าน จำพวกเรื่องหวย เรื่องเหนือธรรมชาติ เมียงู และเรื่องคดีข่มขืน การทำร้ายทางเพศ

เวลาเล่าข่าวข่มขืนทีไร เธอจะบรรยายเหตุการณ์และบรรยายสภาพเหยื่ออย่างน่าสะอิดสะเอียน ประมาณว่า อวัยวะเพศฉีกขาด ซี้ดดดดดด อะไรแบบนี้

เวลาคนอื่นกำลังเล่าข่าว เธอจะพูดว่า ค่ะๆ ค่าๆ ตลอดเวลา โดยไม่สามารถแทรกเข้ามาในการเล่าข่าวได้เลย เพราะดูเหมือนเธอไม่มีความรู้เรื่องนั้นๆ

เวลาจะแทรก ก็จะแทรกในรูปแบบ พูดซ้ำเรื่องที่เขาเพิ่งพูดมา เหมือนกับพยายามสรุปคำพูดนั้นอีกครั้ง ซึ่งดูเสียดายเวลาและไม่มีความจำเป็นเลย

เวลาจะปล่อยมุขตลก มุขของเธอส่วนใหญ่จะถ่อยๆ ต่ำๆ และ political incorrectness เป็นประจำ เป็นไปในลักษณะแซวคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือแซวเอกราช เก่งทุกทาง เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก

เรื่องที่เธอพร่ำพูดแซวเอกราชอยู่ตลอดเวลา วนเวียนอยู่แค่เรื่อง ดำ - แก่ - อ้วน

จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้ชื่นชมรายการทีวีประเภทคุยข่าวแบบนี้เท่าไร เพราะคิดว่ามันคือความตกต่ำของวงการสื่อสารมวลชน พวกนักข่าวบางคนกลายเป็นซีเลบริตี้ ที่ไม่ต้องออกไปทำงานข่าวเอง แต่เอาข่าวที่คนอื่นทำไว้ มาเล่าต่อ โดยใส่ความเห็น ใส่มุขตลก และมักจะเล่าซ้ำๆ หลายช่อง หลายช่วงเวลา แล้วสุดท้าย คนไทยก็ต้องมานั่งดูซีเลบริตี้พวกนี้ทุกเช้าๆ

นักข่าวคนอื่นเขาทำงานกันหนัก ไปอยู่ในพื้นที่อันตราย ประจำอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเสี่ยงชีวิตทำข่าวส่งกลับมายังสถานีที่กรุงเทพฯ ส่วนเจ้าพวกซีเลบริตี้พวกนี้ เอาข่าวเขามานั่งคุยเล่นกัน แซวกันไปมา เฮๆ ฮาๆ อย่างคะนองปาก

ใครจะไปคะ? คุณสรยุทธ์จะไปเหรอคะ? จะไปแน่เหรอคะ? คุณสรยุทธ์จะไปวันไหนคะ? ไปวันไหน? ไปแน่เหรอคะ? ฮ่าๆๆ หึๆๆ อ้วนดำแก่ เมียงู หวยออก ข่มขืนกระทำชำเรา อวัยวะเพศฉีกขาด ซี้ดดดดดด

ผมคิดว่ารายการประเภทคุยข่าว น่าจะพัฒนาตัวเองเลยจุดสูงสุดไปแล้ว ความนิยมก็เลยจุดสูงสุดไปแล้ว คนดูรายการข่าวตอนเช้าๆ คงเบื่อและเอียนกันเต็มทน แต่ที่เปิดดูกันอยู่ก็เพราะมันเป็นความเคยชิน และมันเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกช่อง อย่างน้อยก็ถือว่าดีที่มีคนมาบริฟข่าวให้ฟังทุกเช้า ระหว่างที่กำลังนั่งกินกาแฟและนั่งขี้ ก่อนจะออกจากบ้านไปทำงาน

พวกผู้จัดรายการและทีมข่าวของทุกช่อง ควรจะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเสียที และก่อนอื่นใด ช่วยเตือนเธอคนนี้เรื่องการทำงานเป็นสื่อมวลชนให้หน่อย ถ้าเตือนแล้วไม่ได้ผล ก็ช่วยเอาออกไปให้พ้นๆ จอทีวีตอนเช้าๆ ไปเลย


...


ปล. ชื่อใหม่ของเธอ ผมสะกดไม่ถูก ขอเรียกเธอว่าอรปรียาอย่างที่คุ้นเคยแล้วกัน และเจตนาใช้คำว่า "มุข" แทนคำว่า "มุก" เพราะเชื่อว่าถูกต้องมากกว่า

...

2 comments:

Anonymous said...

.
.
.

เธอมีชื่อใหม่ว่า ปุณยวีร์ สุขกุลวรเศรษฐ์ ครับพี่อ๋อง
ใน Wikipedia ภาษาไทยก็มีข้อมูลของเธอด้วย
คุณสรยุทธตั้งชื่อเล่นเรียกเธอว่า "เจ้าแม่ไทรทอง"

ยุคนี้พิธีกรเป็นเซเลบฯ ทยอยกันเป็นเซเลบริตี้กันหมด
มีพ็อกเก็ตบุ๊คเป็นของตัวเอง ,ได้แสดงหนัง,เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า,และอื่นๆ อีกมากมาย

เอ๊ะอะอะไรก็ต้องคิดถึงเซเล็บไว้ก่อน ไม่ว่าจะงานอีเวนท์หรือว่าการสรรหา บ.ก หนังสือสักคน ก็ต้องมีฐาน
บุญเป็นเซเล็บฯ เป็นความเขลาของยุคสมัยอย่างแท้จริง

ผมคิดว่าถ้าแนวคิดยิ่งได้รับความนิยมไปเรื่อยๆ
จะทำให้ ทุกคนคิดว่าการที่เราเป็น "คนธรรมดา"
คนหนึ่งในสังคมกลายเป็นเรื่องที่เจ็บปวด

.
.
.

Anonymous said...

อ้าว..ดูด้วยเหรอครับรายการนี้

เป็นรายการที่ไม่คู่ควรแก่เวลาที่จะสูญเสียไปของผมอย่างยิ่ง

และเรื่องที่เล่านี้ ก็เป็นคำยืนยันอีกหนึ่งครั้งที่ผมได้รับรู้

: )