Monday, December 11, 2006

The Moon Represents Stock Market Index

...

วันนี้นั่งแปลข่าวต่างประเทศทั้งวัน เจอข่าวหนึ่งประหลาดดี มีเนื้อหาอยู่ว่า นักวิชาการด้านบริหารธุรกิจ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ทำการวิจัยสำรวจข้อมูลตลาดหุ้นของอเมริกาย้อนหลังไป 100 ปี และข้อมูลตลาดหุ้นในอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก ย้อนหลังไป 30 ปี เพื่อค้นหารูปแบบการขึ้นลงของดัชนีตลาดหุ้น โดยเปรียบเทียบกับวัฏจักรของดวงจันทร์ เขาตั้งสมมติฐานเริ่มต้นไว้ว่า วัฏจักรของดวงจันทร์ที่เป็นข้างขึ้นและข้างแรม มีผลต่ออารมณ์ของผู้คน ตามตำนานปรัมปราของชาวตะวันตก เชื่อว่าพระจันทร์เต็มดวงมีผลต่อสภาพจิตใจของบุคคล และทำให้บางคนมีอาการวิกลจริตไปได้ เขาเลยมีคำศัพท์ว่า lunatic แปลว่าความบ้านั่นเอง ดังนั้น เมื่อแต่ละบุคคลได้รับผลกระทบทางจิตใจจากดวงจันทร์ไปในทิศทางเดียวกันแล้ว สภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยรวม ก็น่าจะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไปในทางเดียวกับดวงจันทร์ด้วย

ผลการวิจัยของพวกเขา ระบุออกมาว่า ในแต่ละรอบเดือน วันที่อยู่ในช่วงข้างขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกก็มีแนวโน้มสูงขึ้น จนถึงวันที่พระจันทร์เต็มดวง ดัชนีตลาดหุ้นก็จะลดต่ำลง และลดต่ำลงมาเรื่อยๆ ตลอดช่วงวันข้างแรม ข่าวนี้แปลกจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นความจริง (ในข่าวนี้ระบุชื่อดอกเตอร์ที่ทำวิจัย และชื่อมหาวิทยาลัยด้วยนะ ไม่รู้ว่าทำให้น่าเชื่อถือขึ้นได้มากแค่ไหน) คือราวกับว่า ไปๆ มาๆ แล้ว โหราศาสตร์และการวิเคราะห์ดวงดาว ก็สามารถใช้พยากรณ์ชีวิตคนเรา และพยากรณ์สภาพสังคมได้เลยทีเดียว รวมไปถึงการใช้พยากรณ์ตลาดหุ้นได้ด้วย ในขณะที่ศาสตร์ด้านการบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ กลับไม่สามารถให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

ไม่รู้ว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และโลกในฝั่งตะวันออก จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงในรูปแบบเดียวกับตลาดหุ้นในอเมริกา และในโลกตะวันตกหรือเปล่า เพราะผมคิดว่า คนเอเชียเรามองพระจันทร์ไปในทางตรงข้ามกับฝรั่ง เรามองพระจันทร์ในทางที่ดีงาม เราคิดว่าวันพระจันทร์เต็มดวง หมายถึงวันฤกษ์งามยามดี เราเปรียบเทียบความงามของพระจันทร์กับความของหญิงสาว อย่างเพลงอมตะเพลงหนึ่งของเติ้งลี่จวิน Yue Liang Dai Biao Wo De Xin (The Moon Represents My Heart) ก็แสดงความชื่นชมพระจันทร์อย่างหวานหยดย้อย ผมเลยสงสัยว่า ถ้าคนเอเชียเรามีตำนานปรัมปรา มีความเชื่อในแง่ดีกับพระจันทร์แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นน่าจะพุ่งกระฉูดขึ้นไปชนทะลุแนวต้าน ในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงเสียมากกว่า




...

2 comments:

Anonymous said...

เอ แล้วที่ฝรั่งเขาไปฉลอง Full Moon Party กันที่เกาะพงันนี่จะมองว่าเขามองพระจันทร์ในทางดีงามหรือป่าวหนอ

แหม แต่ว่าไอ้ที่พาคนอ่านจากตลาดหุ้นมาจบลงที่เติ้งลี่จวินนี่สิ From economics to romantic มาได้ไงเนี่ย..ย... อึ้งกิมกี่ ชินไฉหั้ว เหลือเกิน ;D

Anonymous said...

ฝรั่งเห็นดวงจันทร์ แล้วกลายร่างเป็นหมาป่ากันหมด
สู้เห็นดวงจันทร์ แล้วมีกระต่ายน้อย อย่างของเอเชียไม่ได้ น่าร๊ากกกกกกกก

งานวิจัยที่ว่ามันเชื่อถือได้หรือเปล่าหว่า
ค่อนไปทางไม่เชื่อมากกว่านะ