Monday, January 08, 2007

บทสนทนาระหว่าง blue และ the aesthetics of loneliness

...

blue says: อยากอภิปรายซักถาม เรื่อง ปรากฏการณ์ แท็ก ในกลุ่ม บลอกเกอร์ ตอนนี้น่ะครับ
T-A-O-L says: เพิ่งทำไปเนี่ยะ
blue says: นั่นดิ
T-A-O-L says: มันเหมือนเขย่าอะไรที่ตกตะกอนนิ่งๆอยู่ ให้แอคทีฟขึ้นนะ
blue says: ยังไงครับ?
T-A-O-L says: บล้อกมันเยอะมาก มากจนส่วนใหญ่นิ่งๆเนือยๆ เขียนกันนิดๆหน่อยๆ อ่านกันไม่จริงจัง พอมี tag มันเหมือนกับบอกว่า เฮ้ มีคนสะกิดฉันด้วย ไรเงี้ยะ แล้วฉันก็ไปสะกิดคนอื่นต่อ ว่าเราต่างยังสนใจกันอยู่นะ
blue says: เราต่างยังสนใจกันอยู่นะ ... ประโยคนี้เจ็บปวดดี ... เราทำบลอคไปเพื่ออะไรครับ?
T-A-O-L says: งานอดิเรกครับ หาคุณค่าให้ตัวเอง อย่างที่งานประจำให้ไม่ได้
blue says: ทำบลอคเพื่อหาที่ทางส่วนตัวให้กับตัวเอง? แต่แล้วเราก็ยังอยากให้มีคนมาอ่าน มารู้จักความคิดเรา
T-A-O-L says: คือผมค่อยๆ คิดว่า คนเราจะค้นพบว่าเราเป็นใคร ด้วยการสร้างหรือการทำ อะไรสักอย่างที่มีค่าครับ
blue says: นี่พอมีแทค ก็ขยับไปสู่การอยากให้คนอื่นได้รู้จักตัวเรา (ด้านที่เราพร้อมจะบอก) อย่างนั้นหรือ?
T-A-O-L says: ผมมองแยก 2 ประเด็นอ่ะครับ บล้อกแท็กก็บล้อกแทก เขียนบล้อกทำไมก็อีกเรื่อง
blue says: เราเขียนบลอกเพื่อหาอะไรทำยามว่าง เป็นมุมส่วนตัว เหมือนงานอดิเรก ทำแล้วมีความสุข อยู่ในโลกของเรา แต่ขณะเดียวกัน เราก็ไปอ่านบลอกคนอื่น เมนต์ให้คนอื่น คนอื่นก็ตามมาอ่านบลอกเรา เมนต์บลอกเรา
T-A-O-L says: คนละเรื่องกันอ่ะครับ 2 ประโยคข้างต้น
blue says: แจกแจงมาหน่อยครับ
T-A-O-L says: คือในที่สุด ผมพบว่า เราจะพบตัวเอง ด้วยการสร้าง หรือการทำ อะไรบางอย่างที่มีค่าอ่ะครับ
blue says: อ่า อันนั้นเก็ทครับ เราตระหนักในคุณค่าด้วยตัวเอง หรือเมื่อสิ่งที่เราทำ ได้รับการยอมรับจากคนอื่น
T-A-O-L says: คือถ้างานประจำ มันไม่ได้ทำให้เราพบตัวเอง เราก็ต้องหาอะไรอย่างอื่นทำ อาจจะเรียกมันง่ายๆ ว่างานอดิเรก
blue says: อื้อ ครับ
T-A-O-L says: ตระหนักถึงตัวเอง คงมีหลายระดับ หลายทาง หลายแง่ อ่ะครับ บางคนแต่งหน้าทาปากใส่สายเดี่ยว ไปเดินสยามให้หนุ่มๆ มอง บางคนเขียนบล้อก เพื่อล่าคอมเมนท์จากบล้อกเกอร์คนอื่น บางคนก็อยู่กับบ้าน เลื่อยไม้มาทำโต๊ะทำเก้าอี้ ปักครอสติส
blue says: บางคนเขียนบล้อก เพื่อล่าคอมเมนท์จากบล้อกเกอร์คนอื่น .... ทำให้เราตระหนักในคุณค่าของตัวเอง?
T-A-O-L says: ผมว่าเราทำทุกทาง ทุกวิธี ทุกระดับ ในเวลาเดียวกันอ่ะครับ เราไม่ได้แยก ว่าเราจะสร้างตัวตนด้วยวิธีนี้เท่านั้น หมายความว่า ทางหนึ่งก็เขียนบล้อก เพื่อรออ่านคอมเมนต์เพื่อนด้วย และทางหนึ่ง ก็เขียนบล้อกเพื่อค้นหา ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ทำได้ดีแค่ไหน
blue says: อือม์ แล้วนั่นพอจะโยงไปสู่ประเด็นว่า "เราอยู่กับตัวเอง" มากขึ้นหรือเปล่าครับ
T-A-O-L says: เราตระหนักตัวเองได้มากขึ้นมากกว่าครับ
blue says: ตระหนักอะไรครับ ตระหนักว่า เราคือใคร หรือ ตระหนักว่าเรายังมีคุณค่าอยู่ ?
T-A-O-L says: ตระหนักว่าเราคือใคร เราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร ไรงี้อ่ะครับ คือถ้าเราไม่สร้าง ไม่ผลิต ไม่ทำ เราก็จะไม่พบตัวเองอ่ะครับ ผมคิดแบบนี้
blue says: self-recognition
T-A-O-L says: คอนเซ็ปต์ตรงๆ ในภาษาอังกฤษนี่ไม่รู้อ่ะครับ บางคน คิดว่าเราค้นพบตัวเองด้วยการบริโภคอ่ะครับ ผมว่าไปผิดทาง เสื้อผ้าแบบนี้คือเป็นตัวของฉันเอง รถคันนี้คือรสนิยมแทนตัวฉัน หนังเรื่องนี้คือหนังเรื่องโปรดของฉัน ไรงี้อ่ะครับ ถ้าแค่บริโภค เราจะไม่พบตัวเอง
blue says: การบริโภคเป็นการเปิดรับสิ่งต่างๆ เข้ามาในชีวิต หรือเปล่าครับ เหมือน อินพุด ใหม่ๆ ช่วยให้เราได้เรียนรู้ ได้เลือก
T-A-O-L says: ใช่ครับ มันเข้ามาเป็นวัตถุดิบ ให้เราเอาไปสร้างต่อครับ แต่ไม่ใช่จบแค่นั้น บล้อกเลยเป็นช่องทางเอาท์พุตครับ
blue says: ตรงประเด็นเลยครับ ชอบๆ
T-A-O-L says: จริงๆ สร้างอย่างอื่นก็ได้ครับ เยอะแยะ บล้อกก็เป็นแค่ทางหนึ่ง
blue says: แล้วพอมีคนมามองเห็น เอาท์พุต ของเราล่ะครับ?
T-A-O-L says: เราก็ยินดีครับ แต่ก็ยังต้องปล่อยเอาท์พุตต่อไป ถือว่าการรอคอมเมนต์ เป็นอินพุท เป็นส่วนหนึ่งของการบริโภคด้วย
blue says: แล้วเวลาเราปล่อยเอาท์พุตออกไป มันคือ self จริงๆ ของเรา หรือว่า สิ่งที่เราประกอบสร้างเท่านั้น? เป้นไปได้มั้ยว่า ตัวตนในบลอก เป้นแค่การสร้างภาพ
T-A-O-L says: แน่นอนครับ แต่ตัวเราเอง ลึกๆ เราจะรู้ตัวเองครับ
blue says: ครับ
T-A-O-L says: ที่ปล่อยออกไปภายนอก มันก็แค่ภาพครับ ภาพให้คนอื่นเอาไปบริโภคอีกต่อนึง
blue says: แล้วกรณีแท็กล่ะ เราจะได้รู้จัก "ตัวตนด้านที่เราไม่รู้จัก" จริงๆ น่ะหรือครับ เพราะคนที่เขียนแทค ก็เลือกเขียนเฉพาะสิ่งที่อยากให้รู้ ซึ่งอาจจะจริง/ไม่จริงก็ได้
T-A-O-L says: ใช่ครับ ที่เขียนๆ ไป 5 ข้อนั้นก็ประกอบสร้างครับ แต่เราจะรู้เฉพาะตัว ภายในตัวเราเอง เราจะเห็นครับ ซึ่งนี่สำคัญกว่า
blue says: ... นอนมองเพดานบ่ายวันอาทิตย์
T-A-O-L says: เหมือนอาจารย์เขียนเรื่องสั้นหน่ะครับ คนอ่านก็คิดว่า โห อบอุ่นลงตัวจัง ไรงี้ ซึ่งจารย์ก็จะบอกเขา ว่าไม่ใช่อย่างนั้นเสียทั้งหมดหรอก เพราะจารย์รู้ตัวเองแล้ว
blue says: เห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นอาจจะไม่จริง งานที่เราเขียนลงไปก็ประกอบสร้าง เหมือนวิธีการพรีเซนต์ตัวเองผ่านเสื้อผ้า ก็ประกอบสร้าง มนุษย์ทุกคนนี่ช่างเป็น "วิศวกรชีวิต" ที่น่ามหัศจรรย์ ดีนะครับ
T-A-O-L says: ใช่ครับ เราต่างก็สร้างมันออกไปเพื่อแสดง แล้วเราต่างก็บริโภคการแสดงของกันและกัน ซึ่งถ้ามันจบแค่นั้นก็แย่ครับ หลงรูปรสไป เราเลยต้องสร้างบ้าง ถ้าเขียน blog tag จริงหมด คนอ่านคงตกเก้าอี้อ่ะครับ
blue says: มีมั้ยครับ บลอกที่ไม่รับคอมเมนต์ คนทำ ทำไว้อ่านเอง
T-A-O-L says: งั้นก็เป็นเว็บไซต์ส่วนตัวแบบดั้งเดิมอ่ะครับ
blue says: ครับ มีบลอกนึงครับ http://lighthouse.exteen.com/ มุมส่วนตัวไว้พร่ำเพ้อเรื่อยไปน่ะครับ
T-A-O-L says: ของจารย์นี่ครับ ทำไมไม่เปิดรับคอมเมนต์หล่ะครับ
blue says: คลิกดูที่โพส "ขอโทษ" นะครับ
T-A-O-L says: คิดว่าจะได้อะไรจากการนี้ครับ
blue says: ความผูกพันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเกินไป
T-A-O-L says: ต่างคนต่างวิถีอ่ะครับ
blue says: นั่นดิครับ
T-A-O-L says: แต่ถ้ายังคงทำการสร้างต่อไป เราก็จะได้เจออะไรๆ ที่อาจจะเป็นสิ่งเดียวกัน ที่ปลายทาง
blue says: ไซเบอร์เป็นแค่สเปซ คนใช้ก็ใช้ตามเป้าหมายของตัวเอง
T-A-O-L says: ผมอาจจะเสียเวลากับการหลงวนอยู่ในคอมเมนต์ จารย์อาจจะเสียเวลาหลงวนอยู่ในความโดดเดี่ยว
blue says: เป็นประโยคที่จึ๊กดีครับ
T-A-O-L says: อย่างน้อยก็ดีกว่าหายใจทิ้ง นอนดูเพดานอ่ะครับ
blue says: 55555
T-A-O-L says: ดีกว่าไปเดินห้าง
blue says: ไม่หรอก อะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ ถ้ามันเกิดจากเราอยากทำจริงๆ
T-A-O-L says: ครับ
blue says: แต่ตอนนี้ผมหิวแล้วอ่ะครับ หาข้าวเที่ยงทานก่อน สอนบ่ายสามครับ วันนี้มีบทสนทนาที่ดีมาก ขอบคุณสำหรับเวลาที่ดี แล้วคุยกันครับ

...

7 comments:

Anonymous said...

ช่วงนี้โดนกันหลายคนเลยครับ

Anonymous said...

ชอบอยู่ 2 ประโยคที่บล็อกเกอร์ 2 ท่านนี้คุยกันครับ

"ความผูกพันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเกินไป"

"ผมอาจจะเสียเวลากับการหลงวนอยู่ในคอมเมนต์ จารย์อาจจะเสียเวลาหลงวนอยู่ในความโดดเดี่ยว"


ราวกับได้เห็นสองจอมยุทธ์ปะฝีมือกันกลางหิมะ

Anonymous said...

คาดว่าคุณ blue คงเป็นพวกเดียวกับเจ้าชายน้อย
คือต้องเสียน้ำตาให้กับความผูกพัน

จขบ.บล็อกนี้คงยังไม่เจอคอมเม้นท์ประเภท
จุ๊บๆ
มาส่งเข้านอน

หรือ ตื่นหรือยัง
เช้านี้หม่ำอะไรเป็นอาหารเช้าเอ่ย

ลองไปเม้นท์ใครแบบนี้ดูดิ
จะพบว่าโลกนี้รื่มรมย์ขึ้นอีกเยอะ
กร๊าก

ป.ล.มี Blog Tag ก็ดีนะ
ไปแกล้ง Tag คนที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวเองได้ ชอบๆ

Anonymous said...

รื่นรมย์
ว้า พิมพ์ผิดอยู่เรื่อย แป่ว

Anonymous said...

เห็นที่พี่ Tag มาแล้วครับ พี่อ๋อง ^_^
แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย :P
(ช่วงนี้ blog ก็ไม่ค่อยได้อัฟฯด้วย)

ปล.--สำหรับผมการเขียนบล๊อกนี่มันก็โอนะครับ
นอกจากเสียเวลาแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นข้อเสียข้ออื่นๆเลย

Anonymous said...

ความโดดเดี่ยวไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ มีคำถามทิ้งไว้ให้ว่า อะไรคือความโดดเด่น คะ

Anonymous said...

ความโดดเดี่ยวไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ มีคำถามทิ้งไว้ให้ว่า อะไรคือความโดดเดี่ยว คะ