Sunday, August 30, 2009

สัมพันธภาพรูปแบบใหม่ ในสังคมโลกอินเตอร์เน็ต

บทความเก่ามาก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2541 หรือประมาณ 11 ปีมาแล้ว ถือเป็นบทความขนาดยาวชิ้นที่ 2 ในชีวิตของผม ตีพิมพ์ครั้้งแรกในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้งในหนังสือ ผมคือไซเบอร์ - Cyber Being ซีเอ็ดยูเคชั่น นำกลับมาโพสต์อีกครั้งเพราะมีเพื่อนคนนึงถามถึง


...



สัมพันธภาพรูปแบบใหม่ ในสังคมโลกอินเตอร์เน็ต


ในปัจจุบัน นักเล่นอินเตอร์เน็ตจำนวนหนึ่ง ได้สร้างสังคมใหม่ขึ้นมา คำว่าใหม่ในที่นี้ ไม่ใช่หมายถึงใหม่แต่เพียงในแง่กายภาพ ที่คนติดต่อสื่อสารกันโดยนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมีโมเดมต่อออกสู่โลกภายนอก แต่ยังหมายรวมถึงความใหม่ในแง่มุมมอง แนวคิด วิธีปฏิบัติตัว ของคนในสังคมนี้


คำอธิบายที่ยืดยาวคงไม่ช่วยสร้างความเข้าใจได้มากไปกว่า การขอให้คุณลองเล่นโปรแกรมจำพวกแชต หรือก็ลองใช้เบราเซอร์เปิดเข้าไปร่วมวงสนทนาในเว็บไซต์ที่ให้บริการแชต เช่น www.sanook.com www.pantip.com www.armaweb.com www.thaiicq.com


นอกจากการแชตแล้ว เว็บไซต์เหล่านี้ยังให้บริการเว็บบอร์ด ซึ่งนับเป็นเครื่องมือในสังคมโลกอินเตอร์เน็ตอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ให้คนเข้าไปตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นของตนเอง หรือเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้ของคนอื่นที่มาตั้งเอาไว้ก่อนหน้า


ถ้าหลังจากอ่านบทความ คุณคิดจะลองสัมผัสกับสังคมนี้ ผมขอเตือนคุณก่อนว่าระวังให้ดี มีเพื่อนของผมคนหนึ่งที่รู้จักกันในเว็บบอร์ด เขาเล่าว่าเดือนแรกที่เริ่มถลำตัวเข้ามาในสังคมใหม่ บิลค่าอินเตอร์เน็ตเขาพุ่งสูงถึงกว่า 4,000 บาท และในเดือนที่สองพุ่งไป 7,000 บาท ลองคำนวนเป็นเวลาที่เขาออนไลน์อยู่ประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อวัน !!


โชคดีที่ตอนนี้เขามีพวกพ้องที่รู้จักกันในอินเตอร์เน็ตมากมาย และมีบางคนให้แอคเคานต์อินเตอร์เน็ตฟรีจากสถาบันการศึกษาแก่เขา เช่นเดียวกันกับเพื่อนของผมอีกคนหนึ่ง ที่มีแอคเคานต์อินเตอร์เน็ตฟรี เขาออนไลน์วันละประมาณ 10 ชั่วโมง !!!


เสน่ห์ดึงดูดของสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งใช้เวลาครี่งค่อนวันหมดไปกับมัน คือรูปแบบในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงไปจากโลกแห่งความเป็นจริง


ลองจินตนาการถึงสถานการณ์หนึ่ง สมมุติคุณกำลังเดินหาซื้อเทปเพลงเพราะๆ สักม้วนหนึ่ง แล้วเมื่อคุณเดินไปในร้านขายเทป คุณก็เหลือบไปเห็นลูกค้าอีกคนหนึ่งกำลังซื้อเทปเพลงชุดหนึ่ง ซึ่งเทปเพลงชุดนี้ดูเข้าท่าน่าสนใจทีเดียว และคุณรู้สึกขึ้นมาว่าคนนั้นมีรสนิยมการฟังเพลงที่คล้ายกับคุณ


คุณจะทำอย่างไร ? คำตอบง่ายๆสำหรับโลกแห่งความเป็นจริงคือ ก็ซื้อไปลองฟัง หรือถ้าจะเพิ่มความมั่นใจ ก็หยิบเทปเพลงชุดนี้ไปถามเจ้าของร้านว่าตรงตามที่เราต้องการหรือไม่


แต่คุณคงไม่ทำเช่นนี้ใช่ไหม ? คุณคงไม่ตรงเข้าไปทักทายคนที่กำลังเลือกซื้อเทปนั้น พร้อมทั้งแนะนำตัว แล้วชวนเขาพูดคุยรายละเอียดของเพลงชุดนั้น รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรสนิยมในการฟังเพลงของแต่ละฝ่าย สุดท้ายก็ทิ้งที่อยู่ให้แก่กันและกัน เพื่อติดต่อกันอีกในโอกาสต่อไป


ถ้าทำเช่นนี้ อาจจะถูกมองว่าเป็นคนผิดปกติ


โลกแห่งความเป็นจริงเป็นเช่นนี้เอง โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่คงรู้สึกถึงกำแพงน้ำแข็งที่เย็นชามากั้นกลางระหว่างผู้คน ถึงแม้คุณจะอยู่ท่ามกลางผู้คนนับร้อยในย่านการค้าอันพลุกพล่าน แต่เพราะกำแพงน้ำแข็งนี้เองทำให้คุณก็ยังคงรู้สึกเหงาท่ามกลางฝูงชน


แต่ถ้าคุณเข้ามาอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ลองเข้าไปแชตหรือลองไปตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ด คุณจะต้องแปลกใจว่ามีผู้คนมากมายสนใจที่จะร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็นเรื่องเพลง และสานต่อความสัมพันธ์กับคุณได้อย่างรวดเร็ว


ไม่เฉพาะเรื่องเพลง คุณจะสามารถหาคนคุยด้วยได้อย่างน่าประหลาดใจ ตั้งแต่เรื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเสีย , เรื่องปัญหาชีวิตรัก ไปจนถึงเรื่องนักการเมืองคอร์รัปชั่น ที่คุณสามารถเข้าไปที่เว็บบอร์ดของพรรคการเมืองแต่ละพรรคได้ แม้แต่เรื่องศาสนาที่คุณสามารถแชตทางไอซีคิวกับพระจากวัดธรรมกาย


ในห้องแชตหรือในเว็บบอร์ดเหล่านี้ ระหว่างคุณกับคนรอบข้างทุกคนพร้อมจะยิ้มแย้มพูดคุยกัน ซึ่งถ้าโลกในความจริงเป็นเช่นนี้คงจะดีไม่น้อย แต่เนื่องจากมันไม่มีทางเป็นไปได้ นักเล่นอินเตอร์เน็ตขี้เหงาจึงไขว่คว้าหาสังคมใหม่


มุมมอง แนวคิด และวิธีปฏิบัติต่างๆในสังคมโลกอินเตอร์เน็ต พัฒนามาจากรากฐานที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนจริงๆของคุณ และก็แน่นอนที่คุณก็ไม่รู้จักใครเช่นกัน ข้อดีมันอยู่ที่ความเป็นส่วนตัว ที่ช่วยให้คุณสามารถคุยอะไรกับใครก็ได้ เพราะคุณรู้ว่าคุณไม่มีทางหน้าแตก เพราะไม่มีใครรู้จักแม้แต่หน้าตาของคุณ แต่ข้อเสียคือในทางกลับกัน คือคุณก็ไม่รู้ว่าคนที่คุณคุยด้วยคือใคร


ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จักในไอซีคิว เล่าว่าเธอเคยนัดพบกับชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งคุยทางไอซีคิวกับเธอมานานแรมเดือน และตลอดเวลานั้นเขาดีต่อเธอทุกอย่าง แต่เมื่อครั้งแรกที่พบปะกันในโลกแห่งความจริง เขาคนนั้นพยายามลวนลามเธอ โชคดีที่สถานที่นัดพบเป็นที่มีผู้คนพลุกพล่าน อีกทั้งโชคดีเธอก็ฉลาดพอที่จะไม่เดินทางไปคนเดียว เธอได้นัดเพื่อนทางไอซีคิวอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงไปด้วย จึงรอดตัวมาได้


การนำตัวอย่างในด้านมืดของสังคมในโลกอินเตอร์เน็ตมายกให้ฟังนั้น อาจทำให้คุณมีทัศนคติที่ไม่ดีและมองว่าสังคมนี้มีแต่ความหลอกลวง เป็นสังคมแห่งความเพ้อฝันที่ไม่มีทางประสานเข้ากับโลกแห่งความจริง


แท้ที่จริงแล้ว ที่ผ่านมาผมเองก็เห็นตัวอย่างที่ดีของผู้คนที่มีความสุขในโลกอินเตอร์เน็ต และสามารถสานต่อมาสู่โลกแห่งความจริงได้ ผมเห็นบางกลุ่มที่สนิทสนมและนัดไปทานข้าวด้วยกันทุกอาทิตย์ ผมเห็นบางคนเป็นคู่รักหวานแหววกันก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนสนิทที่สุดของผมคนหนึ่ง ขณะนี้แต่งงานกับชาวต่างชาติและไปใช้ชีวิตคู่อยู่ในต่างประเทศแล้ว


กำแพงน้ำแข็งในโลกแห่งความจริง ถึงแม้จะปิดกั้นผู้คนให้แสดงท่าทีที่เย็นชากัน แต่กำแพงนี้ก็โปร่งใสให้เราเห็นหน้าค่าตาบุคลิกภาพของคนอื่น ต่างจากกำแพงในโลกอินเตอร์เน็ตที่ทึบแสงไม่ให้เรามองผ่าน ถึงจะช่วยให้เรารู้สึกมีความเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ปิดขวางเราในการตรวจสอบความบริสุทธิ์ใจของฝ่ายตรงข้าม


ถ้าเราควรนำแบบอย่างที่ดีจากโลกแห่งความจริงมารวมกับโลกอินเตอร์เน็ต เราก็อาจจะได้โลกในอุดมคติ ที่คนเราสามารถรู้ทั้งหน้าและรู้ทั้งใจ และสามารถแสดงความเป็นมิตรต่อกันได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องมีกำแพงน้ำแข็งปิดกั้นให้ผู้คนรู้สึกเหงาอีกต่อไป



...


No comments: